“เอสเธอร์” ร้องตำรวจ PCT เอาผิดแพลตฟอร์ม “Spell” หลังรับเป็นพรีเซนเตอร์

“เอสเธอร์” ร้องตำรวจ PCT เอาผิดแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ “Spell” หลังรับเป็นพรีเซนเตอร์เซ็นสัญญา พบความผิดปกติ ถูกผู้เสียหายร้องเรียนผ่านทางแม่ ติดต่อผู้ประสานงาน แต่เงียบหาย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา หรือเอสเธอร์ นักแสดงสาว เดินทางมาพบตำรวจ PCT เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ช่วยติดตามกลุ่มคนร้าย ที่เชื่อว่าได้หลอกลวงว่าจ้างให้ เป็นพรีเซนเตอร์ แพลตฟอร์มการซื้อสินค้าออนไลน์ ชื่อ spell เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่เข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ PCT ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ที่ 1 เป็นผู้แทน ในการรับเรื่องร้องเรียนครั้งนี้

น.ส.เอสเธอร์ กล่าวว่า เนื่องจากตนได้รับว่าจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชัน Spell และมีหลายๆ ท่านได้รับความเสียหายจากแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยได้รับการร้องเรียนผ่านมาทางคุณแม่ ทำให้รู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมีอะไรผิดปกติ จึงได้ดำเนินการติดต่อไปทางผู้ที่ประสานงานมา แต่สุดท้ายบุคคลที่ติดต่อประสานงานได้หายตัวไป 

“เราไม่มีช่องทางการติดต่อกับบุคคลท่านนั้นได้เลย จึงได้ร่างสัญญาบอกเลิกการเป็นพรีเซนเตอร์ ผ่านทางที่อยู่ของบริษัท และเป็นเหตุให้ต้องเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เท่าที่ได้รับการร้องเรียนทราบว่าผู้ที่ลงทุนกับแอปพลิเคชันดังกล่าว โดนปิดบัญชี ไม่สามารถถอนเงินออกได้”

น.ส.เอสเธอร์ บอกอีกว่า  สำหรับงานนี้ตนเข้ามารับเป็นพรีเซนเตอร์ ตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 ก่อนรับงานได้รับแจ้งแค่ว่าเป็นแอปพลิเคชัน ขายของทางออนไลน์ ซึ่งทางตนได้มีการตรวจสอบในระดับหนึ่ง ดูแล้วมีความน่าเชื่อถือ จึงได้เซ็นสัญญาไป 1 ปี และได้ยกเลิกสัญญาไปเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ถ่ายทำงานทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง แต่เริ่มรู้สึกผิดปกติเมื่อมีหลายๆ คนเริ่มเข้ามาตำหนิ

“เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะเราตรวจสอบได้ไม่ถี่ถ้วนมากพอ ทั้งที่เข้มงวดเรื่องการรับงานแล้ว จึงอยากจะเตือนพี่น้องในวงการ ถ้ามีงานอะไรที่ติดต่อมาแล้วไม่แน่ใจจริงๆ สามารถเข้ามาติดต่อตรวจสอบข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ หรือโทรมาที่เบอร์ 1599 สำหรับครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่ใหญ่มากๆ”

ทางด้านพล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวมูลค่าความเสียหาย ยังพิจารณาเป็นตัวเงินไม่ได้ เพราะเพิ่งจะมีการเข้ามาแจ้งความ ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการรับคำร้องทุกข์ของคดีนี้ไว้ก่อน จากนั้นจะตรวจสอบการเปิดบริษัท การเข้าไปสู่แอปพลิเคชัน และตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องกรณีนี้บ้าง มีการโอนเงินเข้าออกอย่างไร ขอเรียนว่าถ้าอยากให้การดำเนินการทางคดีเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว ขอให้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สำหรับ แอปพลิเคชัน Spell ซึ่งมีการทำงานผ่านเว็บไซด์ www.firshop.com คือ แอปพลิเคชันขายสินค้าที่มีราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดถึง 30-80% แต่มีข้อกำหนดให้ผู้ซื้อสินค้าหาสมาชิกที่ต้องการลงทุน ซึ่งเรียกว่าการหั่นราคา สมัครและโอนเงินลงทุนเข้าสู่ระบบ โดยอ้างว่าสมาชิกที่ลงเงินหั่นราคา เท่าราคาสินค้าของผู้ซื้อ คือ ผู้ลงทุน และจะได้เงินต้นดังกล่าวคืนพร้อมปันผล 10-20% เมื่อครบกำหนดเวลาที่ระบบกำหนด 

ในระยะแรกมีการดำเนินการและแบ่งปันผลได้จริง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งวิธีการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ดังกล่าว เป็นเพียงการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมให้เหยื่อหลงเชื่อ แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นอุบายในการชักชวนให้หาสมาชิกเพิ่มเพื่อให้มีจำนวนเงินเข้าระบบมากขึ้น จากนั้นจะนำเงินจากสมาชิกลูกข่าย มาจ่ายปันผลให้กับสมาชิกต้นทาง ซึ่งไม่ได้เกิดจากการประกอบการธุรกิจที่มีผลกำไรอยู่จริง ซึ่งมีรูปแบบแผนคล้ายกับระบบแชร์ลูกโซ่

ในเรื่องนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  ขอประชาสัมพันธ์ให้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจต่างๆ ควรมีการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน การลงทุน หวังผลกำไรระยะสั้น หากท่านใดสงสัย หรือมีข้อร้องเรียน แจ้งความได้ที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศูนย์ PCT) สายด่วน 1599 ตลอด 24 ชม. หรือ สายตรง 081 866 3000 เฉพาะเวลาราชการ

แสดงความเห็น