DST.Special Report : ชัยชนะเหนืออินโดนีเซีย 4-0 ทำให้เราจับหูถ้วยแชมป์ไปแล้ว 1 ข้าง
หากวันที่ 1 มกราคม ของศักราชใหม่ ช้างศึกไม่แพ้อิเหนา 5 ลูก ‘เจ้าเจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทย จะชูมันขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
พร้อมกับการประกาศศักดาให้ชาติในเอเชียอาคเนย์รู้ว่า เรากลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่แล้ว หลังหลายปีที่ผ่านมาแชมป์อาเซียน 5 สมัย ต้องตกอยู่ในสภาวะเผชิญวิกฤติฟอร์มการเล่นและศรัทธาของแฟนบอล
ใครจะมองว่า เป็นแค่ถ้วยมิกกี้เมาส์ ถ้วยน้ำพริก หรือเก่งแต่ในคอมฟอร์ทโซน ช่างเขา ให้ถือเอาว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่จะกอบกู้ตัวเองออกจากหล่มความล้มเหลว
และมันน่าภูมิใจชนิดที่ยืดอกได้ด้วย เพราะเราไม่ได้กำลังจะเป็นแชมป์ธรรมดา แต่เป็นแชมป์ที่คู่ควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
เราดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ใช่แค่ชัยชนะที่ได้รับ แต่สถิติทุกอย่างเราเหนือกว่าทุกทีม เชื่อเถอะว่า ตัวเลขไม่เคยโกหกใคร
ถึงตรงนี้ มีนักเตะคนเดียวที่สอยตาข่ายทีมชาติไทยได้คือ ‘แพทริก ไรเชลท์’ นักเตะทีมชาติฟิลิปปินส์ และอดีตตัวรุกของสุพรรณบุรี เอฟซี
เราดีตั้งแต่ผู้จัดการทีม ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เฮดโค้ช ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ และทีมงานของเขา ตัวผู้เล่นทุกคนที่ถูกเรียกไปรับใช้ชาติในครั้งนี้
คุณภาพนักเตะที่เราเอาไป ไม่ว่าจะตัวจริงหรือตัวสำรองเหนือกว่าทุกทีม ช้างศึกทีมนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการโรเตชั่นเลย ผู้เล่นในซุ้มม้านั่งเมื่อถูกเปลี่ยนไป โชว์ผลงานได้ดีทุกคน
จะเห็นว่า นักเตะของชาติอื่นประสบปัญหาร่างกายกรอบ จากการกรำศึกที่มีระยะเวลาพักไม่กี่วัน เกมกับอินโดนีเซียเห็นได้ชัดว่า เขาล้ามาก ในขณะที่นักเตะของไทยสดอยู่ตลอดเวลา
การขาดหายไปของใครไม่สร้างผลกระทบใดๆ ต่อทีม ทุกคนแทนกันได้หมด
เพราะเราไม่ได้เรียกนักเตะไปแค่เพียงให้ครบโควตา แต่ ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ ต้องการใช้ประโยชน์จากทุกคน
ตรงนี้ขอชม ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ เพราะทรัพยากรที่เรียกตัวไปดีทุกคน อยู่ในฟอร์มที่ดีกับสโมสรทั้งนั้น
ไม่ว่าใครได้ลง เราชมกันไม่หวาดไม่ไหว
ตอนนี้มีเพียงนักเตะไทยคนเดียวที่ยังไม่ได้ลงสนามสักนาทีนั่นคือ ‘เจนภพ โพธิ์ขี’ กองหน้าโปลิศ เทโร ที่ฟอร์มเปรี้ยงปร้างในลีก แต่เชื่อว่า นัดสุดท้าย ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ จะส่งเขาลง
เพื่อให้เราแชร์ความสุขทุกคนร่วมกัน
มันคงเป็นอีกโมเมนต์ที่มีความสุข จนใกล้คำว่า ‘เพอร์เฟกต์’ เลยทีเดียว
เรามีทีมสปิริตที่ยอดเยี่ยม ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม การเปลี่ยน ‘เจ้าตอง’ กวินทร์ ธรรมสัจจานนท์ ที่เพิ่งเสียคุณพ่อไป แทน ‘เจ้าแชมป์’ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หลังสกอร์เราขาด เพื่อให้สัมผัสบรรยากาศเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ คือ โมเมนต์ที่แม้แต่กองเชียร์ยังน้ำตาซึม
นักเตะชุดนี้มุ่งมั่นกับภารกิจกอบกู้ศรัทธาฟุตบอลไทย ทุกคนตั้งใจเล่น ไม่นอกเกมส์แม้จะถูกยั่วยุ หรือ แม้จะถูกตุกติกจะต้องสะบักสะบอม
คำปลุกใจในห้องแต่งตัว มันตอบทุกอย่างว่า นักเตะของเรากระหายชัยชนะแค่ไหน
ปีใหม่ปีนี้ มันเป็นเทศกาลที่โคตรมีความสุขจริงๆ นอกจากเราได้เฉลิมฉลอง อยู่กับครอบครัว แล้วยังได้อิ่มเอบกับถ้วยแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
อะไรๆ มันก็ดีไปหมดเลย ว่ามั้ย.
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจช้างศึก
แสดงความเห็น
