กมธ.กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน นัดประชุมสรุปผลงาน 29 ธ.ค. – วิสาร ลาออกจากกมธ. ค้านต่อเวลา

กมธ.กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน นัดประชุมสรุปผลงาน 29 ธ.ค. – วิสาร เผยขอลาออกจากกมธ. ค้านต่อเวลา คาดเข้าสภาฯ เมื่อไร ถูกซักหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. ว่า  หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่อนุมัติให้กมธ. ต่ออายุการทำงาน ออกไปอีก 120 วัน  ทำให้ กมธ.ต้องนัดประชุมเพื่อสรุปรายงาน เสนอต่อสภาฯ ตามกำหนดที่จะครบอายุวันที่ 2 มกราคม 2565 ทำให้ กมธ.ต้องนัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสรุปรายงานเพื่อนำเสนอในวันที่ 29 ธันวาคมนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้นในการทำงานของกมธ. ชุดดังกล่าวพบปัญหาเนื่องจากมีกมธ. ลาออกจำนวนหนึ่ง เพราะไม่พอใจต่อการทำงานของกมธ. ที่ขอขยายเวลาพิจารณาออกไปเหมือนถ่วงเวลาไม่ให้รายงานของกมธ.ฯ ที่สรุปรายงานของการใช้เงินกู้ 1.9ล้านล้านบาท ของรัฐบาลเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ทันในสมัยประชุม  เพราะกมธ.เคยขอขยายเวลามาแล้ว 3 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มทำงาน เมื่อ 18 มิถุนายน 2563 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากมธ. หลายคนไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะ ส.ส. ที่เป็นกมธ.ตรวจสอบการใช้เงินกู้ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโควิด-19 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ที่มีนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกมธ. อาทิ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น ยื่นใบลาออก 

นอกจากนั้นยังพบว่าการประชุมกมธ. บางครั้งมีกมธ. เข้าประชุมเพียง 3-4 คน และประชุมเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานกมธ. อาทิ ติดตามการช่วยเหลือเยียวยาลูกหนี้ค้างชำระค่าเช่าแผงค้าตลาดนัดจตุจักร ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 เมื่อ 6 ธันวาคม 2561 เป็นต้น

ทั้งนี้นายวิสาร  ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุของกมธ.ฯ เพราะทำงานมานานเกือบ 2 ปี จึงควรสรุปรายงานเพื่อเสนอต่อสภาฯ อีกทั้งการใช้เงินกู้ ตามพ.ร.ก. ทั้งส่วนของ 1ล้านล้านบาท ได้ใช้งบเต็มจำนวนแล้ว และอีก 9แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทางการเงินกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ และรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ  ได้เสนอแนะและให้ความเห็นเพื่อแก้ปัญหาไปทั้งหมดแล้ว  ทั้งการแก้ไขระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงคิดว่าไม่ควรขยายเวลาอีกต่อไป อีกทั้งปัจจุบันมีกมธ.ที่พิจารณาเงินกู้ 5 แสนล้านบาทและทำงานเหมือนกัน เรื่องเดียวกัน จึงควรให้กมธ.ชุดดังกล่าวได้ทำงานต่อ ไม่ซ้ำซ้อนกันจะเหมาะสมกว่า

“ผมทราบว่าวันที่ 29 ธันวาคมนี้ กมธ.ฯ จะนัดประชุมเพื่อสรุปรายงาน เพื่อเสนอต่อสภาฯ แต่ผมไม่ได้เป็นกมธ.แล้ว จึงไม่ได้เข้าประชุม ทั้งนี้เมื่อสรุปรายงานและเสนอต่อสภาฯ แล้ว เชื่อว่าจะมีการอภิปรายซักถามกันหนักในที่ประชุม เพราะมีการใช้เงินจำนวนมาก และบางโครงการพบการทุจริต” นายวิสาร กล่าว

แสดงความเห็น