“เสรีพิศุทธ์” เหยียบซ้ำ “สิระ” หลังศาลรธน.ฟันพ้นส.ส. เผย ไม่ส่งคนชิงส.ส.หลักสี่

“เสรีพิศุทธ์” เหยียบซ้ำ “สิระ” หลังศาลรธน.ฟันพ้นส.ส. จ่อ ดำเนินคดีเลขา-รองเลขาครม. ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เหตุปฏิเสธให้เอกสารขอเครื่องราชฯ เผย ไม่ส่งคนชิงส.ส.หลักสี่ เกรงตัดคะแนนฝ่ายค้านกันเอง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ต่อมาจะเป็นหน้าที่ของสภาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเคยไปแจ้งความดำเนินคดีที่ กกต.เพราะนายสิระเคยแจ้งความเท็จต่อกกต.ในตอนที่สมัครรับเลือกตั้งเกี่ยวกับคุณสมบัติ โดย กกต. บอกว่าให้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปต้องเรียกตัวนายสิระมารับทราบข้อกล่าวหาและสรุปฟ้องได้เลย โดยมีอัตราโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 20 ปี ส่วนทางสภาจะต้องเรียกคืนเงินทั้งเงินเดือน เบี้ยประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทั้งหมด สวัสดิการต่างๆ ที่นายสิระอาจจะเบิกรักษาพยาบาล นอกจากนี้ นายสิระยังมีผู้ช่วยส.ส.อีก 8 คน รวมทั้งสิ้น 2 ปี เป็นเงินประมาณ 10 ล้านกว่าบาท 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และนายสิระต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง โดยกกต.ต้องจ่ายเงินไปก่อนและเรียกเก็บกับนายสิระ หากนายสิระไม่จ่ายก็จะต้องมีการฟ้องร้องต่อไป นอกจากนี้นายสิระยังได้แจ้งความเท็จกับสภาฯ ในการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย ตนได้ขอเอกสารไปที่เลขาธิการสภาฯ แต่ได้รับคำตอบว่าได้ส่งเอกสารไปที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดแล้ว ตนจึงได้ทำเรื่องขอเอกสารไปยังเลขาฯ ครม. ซึ่งทางรองเลขาฯ ปฏิเสธไม่ให้เอกสารโดยอ้างว่าเป็นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตนได้ไปเปิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 4 พบว่า ยกเว้นการกระทำของสภาฯ หรือกมธ. ทั้งนี้ ตนดำเนินการเรื่องต่างๆในฐานะประธานกมธ. แต่เมื่อไม่ยอมให้เอกสาร ตนก็จะต้องดำเนินคดีเลขา ครม.และรองเลขาฯ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผิดทั้งประมวลกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อถามว่า พรรคเสรีรวมไทยจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตหลักสี่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เมื่อดูคะแนนเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคเสรีรวมไทยอยู่ลำดับที่ 5 หากส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง คะแนนของพรรคก็จะไปตัดกับพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็จะทำให้ฝ่ายรัฐบาลหรือ พปชร.ชนะ ดังนั้น พรรคเสรีรวมไทย จึงยอมที่จะไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครฝ่ายค้านได้เป็นส.ส.ในเขตนี้ เพราะใครได้เป็นส.ส.ก็ทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองได้เหมือนกัน

แสดงความเห็น