ไพบูลย์ เผยเนื้อหาร่างพ.ร.ป. ที่เตรียมยื่น รัฐสภา ย้ำ เคลียร์ปัญหาพรรคเล็กยุติแล้ว

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค เปิดเผยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ใช้ในการเลือกตั้ง 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอต่อรัฐสภา นั้นมีข้อยุติในเนื้อหาแล้ว โดยในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประเด็นสำคัญที่แก้ไข คือ การคำนวณหาส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน จะให้มีส.ส.ที่เกิดจากเศษคะแนน โดยจะต้องคำนวณคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้รับจากคะแนนเลือกตั้งที่มีจำนวนเต็มก่อน และหากยังได้ ส.ส.ไม่ครบ 100 คน จะให้หาส.ส. จากพรรคการเมืองที่ได้เศษคะแนนสูงสุดตามลำดับ นอกจากนั้นการใช้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส. จะให้ใช้หมายเลขส.ส.เขตเป็นคนละหมายเลขกับ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีรายละเอียดที่แก้ไขจำนวนมาก โดยมีรายละเอียดสำคัญ อาทิ การกำหนดให้พรรคการเมืองสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารี่โหวต) โดยการหาผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้ง ยังกำหนดให้ใช้ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ กำหนดให้ใช้องค์ประชุม 100 คน หรือ กรณีที่ใช้การสรรหาด้วยตัวแทนพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้ง ให้ใช้องค์ประชุม 50 คน ทั้งนี้ในการกำหนดให้มีสาขาพรรค ได้กำหนดเงื่อนไขว่า หากตัวแทนพรรคการเมืองจังหวัดใด มีสมาชิกครบ 500 คน ไม่ต้องจัดตั้งเป็นสาขาพรรคการเมืองก็ได้ จากเดิมที่กำหนดให้จัดตั้งเป็นสาขา

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่าสำหรับการเก็บค่าสมาชิกพรรค ได้ปรับให้จัดเก็บค่าสมาชิกรายปี ๆ ละ  20 บาท และแบบตลอดชีพ 200 บาท อย่างไรก็ดีร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้นยังคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งนี้ในรายละเอียดนั้นได้หารือร่วมกับพรรคเล็กแล้ว เมื่อวาน (15 ธ.ค.) และเป็นข้อยุติว่าจะใช้ร่างพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับที่พรรคพลังประชารัฐนำเสนอจะเป็นร่างที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอต่อรัฐสภา

เมื่อถามถึงกรณีของการกำหนดเงื่อนไขต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อกันปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อเอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใหญ่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่มีประเด็นที่แก้ไข อีกทั้งในรายละเอียดเป็นสิ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ต้องดำเนินการ

แสดงความเห็น