จุรินทร์ แจงสภาฯ เร่งแก้ปัญหาส่งออกผลไม้ โอ่แก้ปัญหา ทำยอดส่งออกเป็นบวกให้ประเทศ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด นายจุรินทร์​ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์​ ตอบกระทู้ถามสดต่อการแก้ปัญหาการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน ซึ่งตั้งถามโดย น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคก้าวไกล หลังพบว่าเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศจีน ถูกระงับจากมาตรการควบคุมโควิด-19 เข้มข้นของประเทศจีน หลังจากตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อ และขณะนี้ยังไม่พบมาตรการการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทย ซึ่งกังวลว่าการแก้ปัญหาที่ล่าช้าจะทำให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ และประชาชนในวงกว้าง ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ภาพรวมพบว่าไทยสามารถส่งออกผลไม้จากไทยไปยังตลาดประเทศจีน มากถึง 86%  ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาการขนส่งผลไม้ไทยผ่านด่านประเทศลาว ด่านประเทศเวียดนาม ไปยังประเทศจีน ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าการส่งออกผลไม้มีปัญหาจากมาตรการคุมเข้มโควิด-19 อย่างเข้มข้น เช่น การปิดด่าน  แต่ 5 ด่านที่ไทยส่งออกผลไม้ มีเพียงด่านโม่ฮาน  ประเทศจีน ที่ปิด แต่ตนได้ประสานไปยังทูตประเทศจีนให้ผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวเป็นระยะทดลอง โดยให้รถขนส่งสามารถผ่านด่านเข้า-ออกวันละ 150 คัน นอกจากนั้นจะหารือเพิ่มเติมกับทูตจีนเพื่อให้เปิดด่านเต็มรูปแบบในต้นปีหน้า 

นายจุรินทร์ ชี้แจงถึงการดูแลการขนส่งเพื่อปลอดเชื้อโควิด-19 ว่า ได้ตระหนักมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาด โดยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในทุกขั้นตอน ในการส่งออกและการผลิต ส่วนปัญหาการส่งออกลำใย ที่พบเชื้อแป้ง แต่ได้ทำความเข้าใจกับรัฐบาลจีน จนได้รับการผ่อนปรนนำเข้าลำใยได้แล้ว จากนั้นจึงได้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ ทั้งการรับซื้อและส่งออก จนถึงปัจจุบันนี้ไทยสามารถส่งออกลำใยไปประเทศจีน

“การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่ง เป็นปัญหาใหญ่ทุกประเทศ ประเทศไทยเป็นปัญหาเช่นกัน ทั้งนี้ได้จับมือกับภาคเอกชน และได้คลี่คลายแล้ว ทำให้ความต้องการใช้สมดุลกับจำนวนที่มี คือมีจำนวนตู้ 1.2ล้านตู้ ปี 2563 มีความต้องการใช้ 1.1ล้านตู้ แต่หากบางเดือนที่ต้องการใช้อาจทำให้มีปัญหา ทั้งนี้ปัญหาตู้สามารถคลี่คลาย แต่ยังเจอปัญหาค่าระวาง น้ำมันแพงเป็นปัญหาในระยะยาวที่ต้องแก้ปัญหา ทั้งนี้การแก้ปัญหาคลี่คลายด้วยดี ทำให้มียอดการส่งออกเป็นบวกถึง 40% แม้เจอภาวะโควิด” นายจุรินทร์ ชี้แจง

นายจุรินทร์ กล่าวตอนท้ายด้วยว่า หากน.ส.ญาณธิชามีปัญหา สามารถแจ้งกับตนแบบปากต่อปากได้ เพราะเรามีเป้าหมายตรงกันคือการแก้ปัญหาให้เกษตรกร

ทั้งนี้ น.ส.ญาณธิชา ตอบโต้ ว่า “หากการแก้ปัญหาดีจริง ทำไมมีชาวสวนโทรศัพท์มาหาตนเพื่อบอกว่าจะฆ่าตัวตาย และขอให้ใช้เป็นเคสตัวอย่าง ดังนั้นขอให้ส่วนราชการเร่งแก้ปัญหา”

ทำให้นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอชื่อและหมายเลขเกษตรกรที่โทรศัพท์ดังกล่าว เพื่อติดต่อสอบถามถึงช่องโหว่ของการแก้ปัญหาของกระทรวง และถามถึงสาเหตุและต้นตอปัญหาที่แท้จริง ทั้งนี้ในช่วง 10 เดือน พบว่า ราคาทุเรียน เป็นบวก 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนมังคุด ราคาเป็นบวก 23% ส่วนลำใย เป็นลบ 2%

แสดงความเห็น