ป.ป.ช. ไม่รับคำร้องสอบจริยธรรม “ร.อ.ธรรมนัส” ปมเคยต้องคำพิพากษาคดียาเสพติด เหตุเกิดขึ้นก่อนกม.จริยธรรมบังคับใช้ ส่วนปมตรวจสอบทรัพย์สิน คาดเสร็จ มิ.ย.65
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคำร้องให้ตรวจสอบกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี ทั้งที่เคยต้องคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย ขาดคุณสมบัติและละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ว่า คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงได้มีการตรวจสอบคำร้องแล้วเห็นว่าในส่วนของคดียาเสพติดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไปแล้ว ประกอบกับเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ รอ.ธรรมนัส จะดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นก่อนที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ จะมีผลบังคับใช้ จึงไม่เข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง แตกต่างจากกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่กระทำมาก่อนหน้านี้และยังทำในระหว่างที่เป็น ส.ส. ดังนั้น คำร้องดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายที่จะเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้อง
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงการไต่สวน ร.อ.ธรรมนัส กรณีกล่าวหาว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ภริยามีการถือครองหุ้นเกิน 5% และการไต่สวนบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเชิงลึกว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ จ.พะเยา และจังหวัดทางภาคเหนือที่เกี่ยวข้องแล้ว มีการตรวจสอบหุ้น โรงแรม และทรัพย์สินอื่น ทำตลอดเวลา ไม่นิ่งนอนใจ แต่ต้องเข้าใจว่าเมื่อไปถึง มีปัญหาเกี่ยวกับการลงพื้นที่พร้อมกันไม่ได้ เพราะหลายหน่วยงานมีการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home แต่คดียังคงเดินต่อ เรียนว่าจะเสร็จภายในเดือน มิ.ย.65
