34 เก้าอี้ส.ส.กทม. สองขั้วการเมืองรอแข่งดุ

ช่วงนี้ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งและพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรครัฐบาล-ฝ่ายค้าน กำลังเร่งเดินหน้าพิจารณาเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ฯและพ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ให้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ที่คาดว่าที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาวาระแรกช้าสุดภายในไม่เกินเดือนมกราคม 2565

อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบการเลือกตั้ง ที่ประกาศใช้แล้ว ทำให้ มีการเพิ่มจำนวนส.ส.เขตจากตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่มี 350 เขต ก็จะเพิ่มมาเป็น 400 เขต ทำให้หลายพรรคการเมือง ต้องรีบจัดทัพ-จัดหาคนเตรียมส่งลงสมัครระบบเขตที่เพิ่มขึ้นมา 50 เขต กันตั้งแต่ตอนนี้แล้ว

พบว่า “กรุงเทพมหานคร” คือพื้นที่เลือกตั้งซึ่งมีการเพิ่มมากสุดคือ 4 เก้าอี้ ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จะมีส.ส.เขต กทม.จากเดิม 30 คน เป็น 34 คน

หลายพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงและเน้นพื้นที่กทม.เลยต้องเร่งจัดทัพกันตั้งแต่ตอนนี้ อย่างที่ออกตัวเร็วตอนนี้ก็คือ “พลังประชารัฐ” ที่เป็นแชมป์กทม.เพราะได้ส.ส.เขตมา 12 คนจาก 30 เขตเลือกตั้ง จากผลพวง กระแสเอาลุงตู่ กลับมาเป็นนายกฯ รอบสอง ชนิดทำเอา ประชาธิปัตย์ อดีตแชมป์กทม.แพ้หมดรูป สูญพันธุ์มาแล้ว

อย่างไรก็ดี กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่เลือกตั้งซึ่งคาดเดายาก เพราะเห็นชัดทั้งเลือกตั้งส.ส.และเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น ผู้ว่าฯกทม. ปัจจัยชี้ขาดจริงๆ คือเรื่อง “กระแส” โดยเฉพาะกระแสช่วงโค้งสุดท้าย

ด้วยเหตุนี้ พลังประชารัฐ แชมป์ส.ส.เขต กทม. เลยประมาทไม่ได้ หลังถูกมองว่า กระแสลุงตู่ ในกทม.ลดลงจากตอนปี 2562 เยอะ ผนวกกับคนกทม.เริ่มตั้งคำถามกับพลังประชารัฐมากขึ้น ถึงผลงานที่ผ่านมาในการพัฒนาพื้นที่กทม.

ที่สำคัญเลยก็คือ เลือกตั้งที่จะมีขึ้น พื้นที่กทม. จะมีพรรคการเมืองปัจจุบันและพรรคการเมืองใหม่หลายพรรค เข้ามาขอตัดแต้ม-แชร์คะแนนจากพลังประชารัฐ โดยเฉพาะพรรคที่ดูแล้วในทางการเมือง คนที่จะเลือกพรรคดังกล่าวจะเป็นกลุ่มฐานเสียงเดียวกันกับพลังประชารัฐ ทั้งกลุ่มพรรคใหม่ อย่าง  “พรรคกล้า” ของกรณ์ จาติกวณิช  หรือ “พรรคไทยภักดี” ของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือแม้แต่กับ พรรคภูมิใจไทย ที่เลือกตั้งรอบหน้า ก็หวังเก้าอี้ส.ส.เขตและคะแนนในระบบปาร์ตี้ลิสต์ในกทม.เช่นกัน หลังตอนนี้ได้ สองอดีตส.ส.กทม. อนาคตใหม่ คือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย และ โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี มาอยู่ด้วยตอนช่วงอนาคตใหม่โดนยุบพรรค คือแม้อาจจะมาเบียดสู้ส.ส.เขตไม่ได้ แต่ก็หวังแต้มในระบบปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งพรคเหล่านี้ อาจทำให้พลังประชารัฐ คะแนนอาจหายไประดับหนึ่ง

กระนั้น คู่ต่อสู้หลัก ในกลุ่มพรรคที่มีฐานเสียงเดียวกัน ก็คงไม่พ้น “ประชาธิปัตย์” ที่เลือกตั้งรอบที่แล้ว ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐ หลายเขตในกทม.ก็คะแนนตัดกันเอง จนทำให้คนของอนาคตใหม่ เบียดเข้าป้ายแทน ยิ่งเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ประชาธิปัตย์คงทุ่มหนักในพื้นที่กทม. เพื่อทวงเก้าอี้คืน ผลก็คือ ทำให้ พลังประชารัฐ เหนื่อยหนักในการรักษาแชมป์สมัยที่สอง  

อีกทั้งล่าสุด ก็มีข่าวว่า “กลุ่มสี่กุมาร พลังประชารัฐ” เดิม ภายใต้การนำของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ -อุตตม สาวนายน ก็กำลังจะเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ที่กำลังตั้งพรรค หลังเริ่มดึงตัวนักการเมืองหลายคนไปอยู่ด้วย เช่น นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ที่คาดกันว่า ถ้าดีลตั้งพรรคดังกล่าวไม่ล้มเสียก่อน พรรคการเมืองใหม่ดังกล่าวของ สมคิด-อุตตม  ก็จะมาตัดคะแนนพลังประชารัฐในกทม.ได้

เผลอๆ ไม่แน่ อาจจะมีส.ส.กทม.พลังประชารัฐ ตอนนี้บางคน ที่เป็นคนของกลุ่มสี่กุมารเดิม ที่มีอยู่ประมาณ 3-4 คน ก็อาจย้ายไปอยู่กับพรรคใหม่ดังกล่าวก็ได้  

ด้วยเป้าหมายของบิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการนำพลังประชารัฐกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ ดังนั้น พื้นที่กทม. จึงเป็นตัวแปรสำคัญมาก

เลยไม่น่าแปลกใจ ที่ บิ๊กป้อม ต้องลงมาคุมพื้นที่กทม.ด้วยเอง เพราะก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวแกนนำพลังประชารัฐหลายคน ต้องการแย่งซีนคุมกทม. แทน ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ -พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ไม่ว่าจะเป็น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ -จักรพันธ์ พรนิมิตร ประธานภาคกทม. -พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

จนทำท่าปัญหาในพรรคส่อเค้าบานปลาย อาจมีการเปิดศึกชิงคุมพื้นที่กทม. ทำให้  บิ๊กป้อม เลยกระโดดมาขอคุมพื้นที่กทม.เอง ท่ามกลางข่าวว่า คนที่อยู่หลังฉากคอยช่วยบิ๊กป้อมอีกที ก็คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

การเตรียมตัวของหลายพรรคการเมืองหลังจากนี้ ทำให้ พื้นที่กทม.กับเก้าอี้ส.ส. 34 คน จึงเป็นการสู้กันเองของพรรคการเมืองขั้วรัฐบาล-แนวทางการเมืองเดียวกัน อย่าง “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย-กล้า-ไทยภักดี-พรรคใหม่สี่กุมาร” ขณะเดียวกัน ก็ต้องสู้กับพรรคการเมืองขั้วตรงข้าม ที่ในกลุ่มดังกล่าว ก็แข่งกันเอง ตัดคะแนนกันเองเช่นเดียวกัน

โดยกลุ่มดังกล่าว หลักๆจะประกอบไปด้วย “พรรคเพื่อไทย” ที่เลือกตั้งรอบที่แล้วได้ส.ส.กทม.มาเก้าคนเช่น ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ การุณ โหสกุล-นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ-อนุสรณ์ ปั้นทอง-พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ-จิรายุ ห่วงทรัพย์

ล่าสุด แกนนำเพื่อไทยยุค re-branding ปักธงว่าเลือกตั้งที่จะมีขึ้น กทม.ต้องได้เก้าอี้เพิ่มขึ้น ระดับขั้นต่ำ 15 คนเป็นอย่างน้อย แม้จะมีความคลุมเคลืออยู่บ้างว่าบางคนเช่น “อนุดิษฐ์-การุณ” จะย้ายออกไปอยู่กับ เจ๊หน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่พรรคไทยสร้างไทยหรือไม่ ในฐานะเป็น “เด็กเจ๊ -บ้านลาดปลาเค้า” มาตลอด

เพราะตอนนี้ พรรคไทยสร้างไทย ก็รุกหนักในพื้นที่กทม. มีการวางตัวผู้สมัครส.ส. กทม.ไว้หลายคนแล้ว บางคนก็ไปดึงมาจาก อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.อนาคตใหม่ที่มีคะแนนระดับสองหมื่นเสียงมาอยู่ด้วย รวมถึง เจ๊หน่อย ก็จะส่งคนลงชิงเก้าอี้ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือส.ก. ปีหน้า  เพื่อสร้างฐานเสียงรองรับเลือกตั้งส.ส.เช่นกัน

ทำให้ พื้นที่กทม. จึงเป็น “ศึกคนกันเองเพื่อไทยเดิม” ที่ต้องห้ำหั่น ตัดคะแนนกันเอง  เพราะเจ๊หน่อย ก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองให้เพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร ได้เห็นว่า ฉายา “เจ้าแม่กทม.” ไม่ได้มาแบบโชคช่วย

และในกลุ่มนี้ นอกจากเพื่อไทย-ไทยสร้างไทย ต้องตัดคะแนนสู้กันเองแล้ว ยังมีตัวตัดแต้มสำคัญอีกหนึ่งพรรคนั่นก็คือ “พรรคก้าวไกล” หรืออนาคตใหม่เดิม ซึ่งเลือกตั้งรอบที่แล้ว ได้เก้าอี้ส.ส.กทม.ถึง 8 เขต จากผลพวงกระแส ธนาธร และส้มหล่นไทยรักษาชาติโดนยุบพรรค

และแม้จะมีอดีตส.ส.กทม.สองคนย้ายไปภูมิใจไทย ขณะที่อีกบางคนก็มีข่าวว่าจะย้ายไปเพื่อไทย คือ “จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.เขตทวีวัฒนา-หนองแขม” แต่ทว่า  แกนนำก้าวไกล มั่นใจว่าจากกระแสพรรคก้าวไกล -พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-คณะก้าวหน้าของธนาธร-ปิยบุตร  ในบทบาทการเป็นพรรคฝ่ายค้านและการเปิดหน้า อยู่ฝ่ายเดียวกับม็อบสามนิ้ว จะทำให้ พรรคก้าวไกล ได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ในแต่ละพื้นที่บวกกับฐานคะแนนเดิมสมัยอนาคตใหม่ จนทำให้ พรรคก้าวไกล นอกจากรักษาพื้นที่เดิมไว้ได้แล้ว ยังน่าจะได้ส.ส.เขตกทม.มากขึ้นรวมถึงได้คะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ในกทม.แบบเป็นกอบเป็นกำ ชนิดสู้กับพรรคเพื่อไทยได้

โดยจุดหนึ่งที่จะวัดกันได้ว่า พื้นที่กทม.พรรคไหน กระแสนิยมจากคนกทม.เป็นอย่างไร ก็คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และการเลือกส.ก. ที่หากว่ารัฐบาลยอมเปิดไฟเขียวให้เลือกตั้งช่วงต้นปีหน้า ก่อนเลือกตั้งใหญ่ส.ส. ผลที่ออกมา น่าจะทำให้หลายพรรคประเมินถึงสนามใหญ่ 34 เขตได้ว่า พรรคไหนมีสิทธิ์เข้าวินมากที่สุด

แสดงความเห็น