‘ไอซ์ รัชนก’ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ถูก ‘ต้อม ยุทธเลิศ’ ทำร้าย ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

‘ไอซ์ รัชนก’ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีถูก ‘ต้อม ยุทธเลิศ’ ทำร้าย ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อเป็นบรรทัดฐานสังคม มีหลักฐานคลิปภาพ-พยานบุคคล เอาผิดได้ ระบุ ยินดีไกล่เกลี่ยปัญหาส่วนตัวเพื่อให้ขบวนการเดินหน้าต่อแต่ไม่ไกล่เกลี่ยเรื่องคดีความ

นางสาวรักชนก ศรีนอก นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน กรณีที่โพสต์แจ้งความดำเนินคดีกับ นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ยุทธเลิศ ผู้กำกับภาพยนตร์ โดยอ้างว่า ถูกตบหน้าและทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่เรือลำหนึ่งย่านคลองสาน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.64 ที่ผ่านมา

โดยนางสาวรัชนก เล่าว่า เหตุการณ์วันดังกล่าว เริ่มต้นจากการไปร่วมงานงานหนึ่งแต่ไม่ขอพาดพิงถึง และในงานมีเรือ ซึ่งหนึ่งในผู้จัดงานชวนขึ้นไปบนเรือ แล้วตนเองได้คุยกับผู้จัดงาน ผู้จัดงานก็บอกว่า นายยุทธเลิศอยู่บนเรือ มีการถามว่าจะคุยกันหรือไม่ แต่ระหว่างร่วมงาน นายยุทธเลิศรู้ว่ามีตนเองอยู่ก็เริ่มไม่พอใจ สักพักก็มีคนเดินมาบอกว่า นายยุทธเลิศ พร้อมคุยแล้วจะเคลียร์กันหรือไม่ ตอนแรกเพื่อนก็ห้ามไว้ แต่ก็คุยกันว่าถ้าไปคุยแล้วขอโทษเรื่องก็จะได้จบ ตนเองเลยตัดสินใจขึ้นไปคุยเพื่ออยากให้จบ แต่พอขึ้นไป บรรยากาศค่อนข้างเหมือนมาเฟีย ตนเองเลยแกล้งแซวเล่น และมีคนในกลุ่มของนายยุทธเลิศพูดว่า คารวะพี่ผมหน่อย และเขาก็พูดว่า มึงเล่นกับมาเฟียจีนอยู่ไม่รู้เหรอ หลังจากนั้นก็สนทนากัน แล้วมีจังหวะที่นายยุทธเลิศเดินเข้ามาตบหน้าข้างขวา ตามที่ตนเองได้เล่าเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊กไป ซึ่งยืนยันว่า ขณะนั้นยังไม่มีการพูดขอโทษอะไรกัน

พร้อมยอมรับว่า ตนเองได้พูดบอกให้นายยุทธเลิศ กราบเท้าจริง เนื่องจากนายยุทธเลิศ ตบหน้าและถีบตนเอง และต้องการให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยวันนี้มีหลักฐานและมีพยานบุคคลมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกรณีที่ มีคลิปภาพและเสียงนั้น ยืนยันว่ามีจริง และพร้อมเปิดเผยถ้าทนายยินยอมให้เปิดเผย และพร้อมมอบให้กับตำรวจถ้าตำรวจต้องการ 

ซึ่งในคลิปเสียง ยืนยันการกระทำที่ สามารถใช้เป็นหลักฐานเอาผิดได้ ทั้งนี้กรณีที่มีการตั้งคำถามว่ามีร่องรอยทำร้ายหรือไม่นั้นมองว่า การทำร้ายร่างกายไม่จำเป็นต้องมีรอยฟกช้ำก็ถือว่าเป็นความผิดแล้ว

ส่วนกรณีที่เป็นการเมา เป็นการกล่าวหา ยืนยันไม่ได้เมา พร้อมขอร้องว่า อย่าใช้คำว่าคนเมาทะเลาะกัน เพราะตนเองแทบจะไม่ได้แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงขออย่าใช้คำว่าเป็นคนเมา แล้วจะมาทำอะไรแบบนี้ได้ 

นางสาวรัชนก ยังบอกด้วยว่า หลังจากนี้หากมีผู้ใหญ่ให้ไกล่เกลี่ย ตนก็ยินดี เพราะการเคลียร์กันก็จะดีต่อขบวนการที่กำลังขับเคลื่อนกันอยู่ แต่การดำเนินคดีตามกฎหมายก็จะต้องดำเนินไปจะมาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีไม่ได้ ทั้งนี้ที่จะต้องดำเนินคดีก็เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานสังคม ไม่ว่าจะมีชื่อเสียง ก็ไม่ควรไปทำร้ายใคร และความหลากหลายทางเพศไม่ควรมีใครได้รับผลแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยการบันดาลโทสะ หรืออะไรก็แล้วแต่

ส่วนเรื่องการขอโทษ ก็ให้เป็นสามัญสำนึกส่วนตัว แล้วแต่เขา และย้ำด้วยว่า การขึ้นไปบนเรือของตนเองไม่ได้ไปหาเรื่องแต่ต้องการไปขอโทษ จากกรณีที่เป็นประเด็นในคลับเฮาส์ที่ตนเองไปตั้งคำถามกรณีของคุณทราย เจริญปุระ ก่อนหน้านี้ ซึ่งก็มีผู้ใหญ่อยากให้เรื่องจบเร็ว และอยากให้คุยกัน ซึ่งตนเองก็ยินดีที่จะคุย แต่ต้องไม่ใช่การคุยกันตอนเมาแล้ว

โดยหลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นางสาวรัชนก ได้ขึ้นไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับทนายความ และพยานบุคคล รวมทั้งหมด 3 คน ที่อยู่บนเรือในวันดังกล่าว ซึ่ง 1 ใน 3 คนนั้น อยู่กับนางสาวรัชนกตั้งแต่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างด้วย

แสดงความเห็น