นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวโดยเชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมหลังจากที่รัฐสภา ไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ….ที่เสนอโดยประชาชน 1.35 แสนรายชื่อ จะรุนแรงมากขึ้น เพราะการลงมติคว่ำดังกล่าวจะทำให้ไม่มีเวทีที่ผู้ที่มีความเห็นหลากหลายได้แสดงความคิดเห็น อีกทั้งรัฐสภาได้ปฏิเสธทั้งหมด เหมือนกับไม่ให้ราคากับประชาชน อย่างไรก็ดีตนมองว่าเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นสิ่งที่สามารถนำมาพูดคุยในสภาฯ ได้ ไม่ใช่ใช้เสียงข้างมากเอาชนะ
“ผมเชื่อว่าจะมีปัญหาตามมาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง สำหรับฝ่ายค้านพวกผมช่วยได้เท่านี้ ระดมคนเต็มที่เพื่ออภิปรายและโน้มน้าวสมาชิกรัฐสภา แต่เมื่อเนื้อหาถูกตีตก ผมได้คุยกับผู้เสนอร่าง ว่า อย่าท้อถอย และให้นำบทเรียนมาพิจารณา และในการประชุมรัฐสภาสมัยหน้าให้เสนอเนื้อหากลับเข้ามาใหม่ โดยอาจจะเสนอเนื้อหาแยกรายประเด็น แทนการเสนอเพียงฉบับเดียว” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยระบบเลือกตั้ง ที่รอการประกาศใช้ว่า ตนทราบว่าทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยยกร่างเนื้อหาเสร็จแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ จากนี้ต้องนำหารือกับพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้งในรายละเอียด ส่วนการเสนอร่างต่อประธานรัฐสภานั้นต้องรอให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แก้ไขระบบเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ก่อน อย่างไรก็ดีทราบว่าส่วนของรัฐบาล ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยกร่างแก้ไขแล้ว จึงเชื่อว่าจะมีหลายฉบับที่นำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
เมื่อถามถึงเนื้อหาที่เสนอแก้ไข นายสมคิด ว่า โดยหลักการคือการแก้เนื้อหาให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่แก้ไข เช่น บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สมาชิกสภาฯ ที่มี 400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน รวมถึงระบบคำนวณคะแนน ส่วน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ได้แก้ไข อาทิ การเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารี่โหวต) การให้มีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด แทนประจำเขตเลือกตั้ง โดยยังคงหลักการที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
แสดงความเห็น
