รุ้ง ลั่น ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ย้ำ ไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง เดินหน้าแก้ ม.112

รุ้ง ปนัสยา ลั่น ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. กรณีล้มล้างการปกครอง ชี้ ไม่เปิดโอกาสให้ไต่สวนส่งผลกระทบต่อสิทธิกระบวนการยุติธรรม ย้ำ 10 ข้อเรียกร้องไม่ได้มีเจตนาล้มล้างการปกครอง ยืนยัน เดินหน้าเคลื่อนไหวแก้ ม.112 ต่อ

ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

กรณีการชุมนุมปราศรัยวันที่ 10 ส.ค.63 ของนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล /นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง และขอให้ทั้งสามคน รวมถึงองค์กรเครือข่ายหยุดการกระทำดังกล่าว

หนึ่งในผู้ถูกร้องอย่าง นางสาวปนัสยา ได้แถลงหลังศาลมีคำวินิจฉัยเห็นว่า ศาลได้วินิจฉัยว่า การกระทำของพวกตน เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ จึงขอยืนยันว่า ข้อเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ และไม่ได้มีเจตนาเพื่อล้มล้างการปกครอง

เบื้องต้น ตนจะไม่เคารพในคำวินิจฉัยของศาล และเห็นว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่อาจยอมรับได้ เพราะขาดด้วยความชอบในกระบวนการพิจารณาคดี เนื่องจากกฎหมายให้ใช้ระบบไต่สวน ซึ่งให้ศาลแสวงหาพยานหลักฐาน แม้ศาลจะใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยได้ก็ตาม ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปเพื่อความยุติธรรม แต่ศาลกลับไม่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวน อันเป็นการกระทบต่อสิทธิของกระบวนการยุติธรรม แม้ผู้ถูกร้องจะยื่นร้องขอให้ไต่สวนแล้วก็ตาม  จึงขอย้ำว่า ตนไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ และข้อเรียกร้องต่อการปฏิรูปสถาบัน ไม่ได้มีเจตนาล้มล้างการปกครอง แต่กลับเห็นว่าการปฏิรูปสถาบันจะส่งผลให้เป็นการดำรงไว้ ให้สถาบันฯเจริญขึ้น รวมถึงการให้แก้ไขกฎหมาย ม.112 ก็ไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองเช่นกัน แต่เจตนารมย์ของการเคลื่อนไหวเป็นไปเพื่อการพัฒนาประเทศเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น

ส่วนกังวลหรือไม่ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้จะมีผลผูกพันธ์ไปถึงคดีอื่นด้วยหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบแต่ก็อาจจะมีผลไปถึงคดีอาญาอื่นได้ แต่ก็กังวลว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าล้มล้างการปกครองแล้ว การล่ารายชื่อให้ยกเลิกม.112นั้นจะนำเข้าสู่สภาได้อีกหรือไม่ จึงขอเวลาในการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ แต่ยืนยันว่า หลังจากนี้จะเดินหน้าเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการแก้ไข ม.112 ต่อไปจนกว่าจะสำเร็จอย่างแน่นอน

แสดงความเห็น