Home รายงานพิเศษ “เศรษฐพ...

“เศรษฐพงค์” จับตา Starlink บุกตลาดอินเดีย เปิดธุรกิจอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ท้าชนเครือข่ายไฟเบอร์5G

บทความโดย : พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย รองประธานกรรมาธิการการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กมธ.ดีอีเอส) กล่าวว่า บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบปฏิวัติวงการที่ได้รับการสนับสนุนโดยมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Space X, Elon Musk จะมาที่อินเดียในเร็วๆ นี้ ตามที่ Musk ได้โพสต์ บน Twitter ว่า บริษัทกำลังหาทางที่จะเปิดใช้บริการ Starlink ในอินเดียในอนาคตอันใกล้นี้ โดย Starlink มีเป้าหมายที่จะนำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นให้สามารถเข้าถึงได้อย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก การไร้ขอบเขตจากโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินแบบดั้งเดิม Starlink นั้นสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงไปยังพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากและไม่น่าจะมีอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยราคาสำหรับบริการอินเทอร์เน็ตเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 499 ดอลลาร์ (ประมาณ 37,000 รูปี) สำหรับฮาร์ดแวร์ และค่าบริการรายเดือน 99 ดอลลาร์ (ประมาณ 7000 รูปี) สำหรับบริการอินเทอร์เน็ต

Starlink ใช้เครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ ซึ่งติดตั้งในอวกาศโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ซึ่งการใช้ดาวเทียมที่มีรอบวงโคจรที่ต่ำกว่า เวลาแฝงจะลดลง ซึ่งช่วยปรับปรุง คุณภาพการบัฟเฟอร์ออนไลน์ การเล่นเกม และการโทรผ่านวิดีโอได้ สิ่งที่น่าสนใจ คือ การทำงานของ Starlink นั้นค่อนข้างคล้ายกับบริการเคเบิลทีวี ในการติดตั้ง Starlink นั้น ผู้ใช้จะต้องติดตั้งจานซึ่งรับสัญญาณจากดาวเทียมขนาดเล็กที่เรียกว่า Mini satellite โดยสิ่งที่ทำให้ Starlink แตกต่างจากบริการอินเทอร์เน็ตแบบเดิมๆ ที่ให้บริการในบ้าน คือ บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม นั่นหมายความว่า Starlink ต้องใช้มุมมองท้องฟ้าที่ไม่มีสิ่งกีดขวางเพื่อให้สตาร์ลิ้งค์นั้นสามารถทำงานได้ ซึ่งผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ในอินเดียใช้เทคโนโลยีที่ใช้ไฟเบอร์ซึ่งให้ความเร็วที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้บริการอินเทอร์เน็ตของ Starlink มีความได้เปรียบก็คือ ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อแบบมีสาย และสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกที่ทั่วโลก

แต่สภาพอากาศที่ไม่ดีนั้นจะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของ Starlink เนื่องจาก Starlink ต้องการมุมมองท้องฟ้าที่สดใสและไม่มีสิ่งกีดขวางเพื่อใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ต

ซึ่งหมายความว่า เวลาที่ฝนตกหนักหรือลมแรงอาจทำให้การเชื่อมต่อหยุดชะงัก ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตช้าหรือแม้กระทั่งเกิดไฟดับเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่บริษัทยังบอกอีกด้วยว่า จานดาวเทียมมีความสามารถในการตรวจจับและละลายหิมะที่ตกลงมาได้ แต่ทั้งนี้ 5G มีความได้เปรียบกว่า Starlink ในด้านของบริการและความเร็วที่เชื่อถือได้ เนื่องจากสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานเซลลูลาร์ที่ดี อย่างไรก็ตาม ในด้านของการเชื่อมต่อ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองชนบทและเมืองต่างๆ จะมีโอกาสเข้าถึงบริการได้ดีกว่ากับบริการของ Starlink เนื่องจากไม่ต้องใช้โครงสร้างด้านพื้นฐาน เช่น เสาสัญญาณมือถือ ในกรณีของ 5G ปัญหาหลักของ Starlink คือเมื่อมีการใช้งานที่สูงขึ้นในเครือข่าย

ทิม ไบรอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสหกรณ์โทรคมนาคมในชนบทแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ผมไม่สงสัยเลยว่ากลุ่มดาวสตาร์ลิงค์จะประสบความสำเร็จในบางพื้นที่ เช่น ทะเล ผมพยายามมากที่อยากจะเห็นว่าบริการอินเทอร์เน็ต 100 เมกะบิตนั้นจะให้บริการ 100 เมกะบิตแก่ลูกค้าเป็นจำนวนมากในชุมชนแออัดได้อย่างไร”

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่เป็นปัญหากับเครือข่ายเซลลูลาร์ 5G เนื่องจากคาดว่า 5G จะรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้มากถึง 1 ล้านเครื่องต่อ 38 ตารางไมล์ โดย 5G จะสามารถบรรจุข้อมูลได้มากขึ้นและถ่ายโอนได้เร็วกว่าบริการอินเทอร์เน็ตของ Starlink มาก

ขณะนี้รัฐบาลอินเดียกำลังประเมินว่าบริการ Starlink รุ่นเบต้าจะละเมิดบทบัญญัติใดๆ ของพระราชบัญญัติการใช้เครื่องส่งสัญญาณทางไกลอินเดียปี 1885, พระราชบัญญัติการใช้เครื่องส่งสัญญาณทางไกลไร้สายของอินเดียปี 1933, นโยบาย Satcom ของอินเดียปี 2000 และกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ปี 2000 หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่า ไม่ได้ผิดกฎหมาย หรือละเมิดมาตรา 4 ของกฎหมายการใช้เครื่องส่งสัญญาณทางไกลอินเดีย เนื่องจาก SpaceX ยังไม่ได้ทำการก่อตั้งบริษัท บำรุงรักษา หรือทำงานเกี่ยวกับการส่งสัญญาณทางไกลในเขตอำนาจศาลของอินเดีย โดยกรมโทรคมนาคม (DoT) ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการเสนอใช้ Starlink

Exit mobile version