DST.Special Report : ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียยู-23 รอบคัดเลือก ที่ดินแดนหนาวเหน็บ ‘มองโกเลีย’นอกจาก ‘เจ้ากันต์’ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กัปตันเลือดไทยแท้ ยี่ห้อเลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ดาวเตะที่ได้รับการพูดถึงมากสุดในชั่วโมงนี้ คงหนีไม่พ้น ‘จีโอ้’ จักรกริช พาละพล แนวรุกผู้ครอบครองเสื้อหมายเลข 7
‘จีโอ้’ ทำไปแล้ว 2 ประตู จาก 2 นัด ลูกแรก คือ ยิงให้ไทยออกนำ ในนัดเสมอเจ้าภาพมองโกเลีย ลูกที่สองเพิ่งบังเกิดในนัดยัดความปราชัยให้เพื่อนบ้านอาเซียน สปป.ลาว 3-0
ไม่เพียงสกอร์ที่เด็กคนนี้ทำได้ แต่ท่าดีใจ ‘งูชูคอ’ ยังเป็นสัญลักษณ์ของเขา ทำให้แฟนฟุตบอลไทยจดจำเขาได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ลีลาการเล่นของ ‘จีโอ้’ ยังตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะการกล้าเล่น-กล้าเลี้ยง มีความมั่นใจในการลากเลื้อย ประหนึ่ง ‘จงอางผยอง’ ตราสัญลักษณ์ของต้นสังกัดปัจจุบัน ขอนแก่น ยูไนเต็ด
เชื่อหรือไม่ว่า ฟุตบอลชิงแชมป์ยู-23 ของเขาครั้งนี้ คือ การติดธงครั้งแรกในชีวิต ขณะที่การลงเล่นให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้ก็เป็นการบู๊ไทยลีก 1 ครั้งแรกในชีวิตเฉกเช่นเดียวกัน
ดาวเตะวัย 22 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ยโสธร เริ่มต้นตำราลูกหนังกับ ‘โรงเรียนราชวินิต บางแคปานขำ’
‘จักรกริช’ ได้รับการบ่มเพาะฝีมือที่สถานอนุบาลดาวเตะชั้นยอดแห่งนี้ เขาโดดเด่นในความเร็วและการควานหาพื้นที่
แต่เห็นจี๊ดๆ แบบนี้ รู้หรือไม่ ครั้งหนึ่ง ‘จีโอ้’ เคยถูกปะทะจนปอดตัวเองฉีก รักษาตัวเป็นเวลานาน กระทั่ง ท้อจนเกือบถอดใจหันหลังให้วงการลูกหนัง
ในวัย 18 ปี ดาวเตะผู้สันทัดตำแหน่งปีก ได้รับการหยิบยื่นโอกาสทองจาก ‘ฉลามอันดามัน’ แกรนด์ ระนอง ยูไนเต็ด ให้สตาร์ทนับหนึ่งความเป็นนักบอลอาชีพที่ภาคใต้
ที่ทะเลอันดามัน หนุ่มน้อย วัยคะนอง แสดงพรสวรรค์ออกมาได้อย่างพุ่งพรวด ช่วยกันอุ้ม ‘ฉลามอันดามัน’ ขึ้นมาแหวกว่ายและล่าเหยื่อในไทยลีก 2 ได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ในปีนั้น เขายังถูกจัดให้เป็น ‘ออลสตาร์ยู-21’ ของไทยลีก 3 ด้วย
ด้วยฝีเท้าเกินวัย กลายเป็นที่หมายปองของหลายทีม สุดท้ายเป็น ‘จงอางผยอง’ ที่คว้าเอาเพชรเม็ดงามไปเจียระไนต่อเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
.
หลังจาก ‘คาร์ลอส เอดูอาร์โด ปาร์เรรา’ ได้รับการแต่งตั้งมาให้เป็นหัวหน้าใหญ่ในการดีไซน์แบบการเล่น ‘จีโอ้’ คือ เด็กที่สะดุดตาเฮดโค้ชชาวบราซิลเป็นอย่างมาก ทั้งที่เห็นฝีไม้ลายมือบนสนามซ้อมเท่านั้น
ถึงขั้นที่ว่า ‘คาลอส’ ประกาศลั่นผ่านสื่อเลยว่า เขาวางแพลนเอาไว้จะให้เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นตัวหลักของทีมบนเวทีสูงสุด
แล้วเป็นดังนั้น ‘คาลอส’ ให้โอกาส ‘จีโอ้’ ลงสัมผัสเกมไปแล้วถึง 8 นัด แม้จะยังไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่วิทยายุทธบนฟลอร์หญ้าของเขาโดดเด่น และเปล่งปลั่ง เป็นที่ถูกอกถูกใจโค้ชและแฟนบอล
สไตล์การเล่นที่ฉูดฉาด ลากเลื้อยแบบมีชีวิตชีวา ไม่เพียงถูกต้องต้องใจ ‘คาลอส’ หากแต่มันไปแยงตาของ ‘โค้ชโย่ง’ วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดยู-23 จนต้องหอบไปมองโกเลียด้วย
จากที่เขาไม่เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างเท่าไหร่ แต่ทัวร์นาเมนต์นี้กลายเป็นการป่าวประกาศว่า ฟุตบอลไทยยังมีปีกความเร็วจัดที่น่าผลักดันอีกคน
และสิ่งที่ตามมาสำหรับดาวเตะอายุน้อยแต่พรสวรรค์สูงที่สโมสรต้นสังกัดไม่อาจหลีกเลี่ยงได้คือ เมื่อเด่น ย่อมต้องมีคนเหล่ตาอยากจะเอาไปครอบครองแน่นอน.
__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก
แสดงความเห็น
