สมชัย ชี้ ประยุทธ์ เข้าข่ายครอบงำ “พปชร.” โทษถึงยุบพรรค

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเพื่อแสดงความเห็นต่อการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ กรณีที่ความพยายามเปลี่ยนตัว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดยสื่อมวลชนลงข่าวว่ามาจากความต้องการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า หากกรณีดังกล่าวเป็นจรริง ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ที่ห้ามคนนอกครอบงำพรรค มีบทลงโทษถึงขั้นยุบพรรค และจำคุก ซึ่งหากพบว่ามีกรรมการบริหารพรรคลาออกเกินกึ่งหนึ่งตามมา ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามมาตราดังกล่าว

“สิ่งที่ควรดำเนินการ คือ นำหลักฐานข่าวของสื่อมวลชนร้องต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งนายทะเบียนต้องดำเนินการสอบสวน ข้อเท็จจริงเพื่อสรุปให้กกต. เพื่อลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยยุบพรรค หากร้องแล้ว นายทะเบียนพรรคการเมืองเพิกเฉย หรือกระทำโดยเอื้อประโยชน์อย่างไม่สุจริต สามารถร้องคดีอาญา มาตรา 157 ฐานประพฤติมิชอบได้ โดยหลักฐานจากสื่อมวลชนเพียงพอแล้วจะเป็นต้นเรื่อง ให้สอบสวนได้” นายสมชัย ระบุ

นายสมชัย ยังระบุในเวลาต่อมาด้วยว่า หากกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออกไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และตามข่าวระบุว่ามีการลาออกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมแล้วจำนวน 8 คนซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ที่ต้องลาออก 14 คนจากจำนวนทั้งสิ้น 26 คน สิ่งที่เกิดขึ้น คือ 1.กรรมการบริหารพรรคยังไม่สิ้นสุดทั้งคณะ 2.หัวหน้าพรรคสามารถแต่งตั้งคนทำหน้าที่แทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งคนมาทดแทน ภายใน 90 วัน และ 3.ออกแล้วต้องไม่ยุ่งอะไรกับการลงมติของกรรมการบริหารที่เหลืออีก

แสดงความเห็น