วิรัช แจง ยังไม่มี กก.บห.พปชร ยื่นลาออกเช้านี้ แม้แต่คนเดียว เชื่อ ทุกอย่างจะจบพรุ่งนี้ แต่ไม่รู้จบแบบไหน บอก ธรรมนัส ยังกำลังใจดี เชื่อปมขัดแย้งภายในพรรคไม่กระทบถึงขั้นยุบสภา
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและกรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่า วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทะเบียนพรรคยังไม่ได้รับใบลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรคแม้แต่คนเดียว แต่จะเก็บไว้กับตัวก่อนหรือไม่ตนเองไม่ทราบ
ส่วนหัวหน้าพรรคได้กำชับประเด็นความขัดแย้งภายในอย่างไรนั้น นายวิรัช บอกว่าในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในเวลา 13.30 ซึ่งหากมีประเด็นอะไร ขัดข้องหมองใจก็จะมาเคลียร์กันในที่ประชุม ถ้าหากเขายังไม่ลาออก
ส่วนท่าทีของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีแนวโน้มว่าจะปรับโครงสร้างของพรรค นายวิรัชระบุว่าต้องรอฟังความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ แต่ยอมรับว่าตนได้พูดคุยกับทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ซึ่งเลขาธิการพรรคก็ยังกำลังใจดี และเชื่อว่าทุกอย่างจะจบในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่รู้จะจบแบบไหน และไม่เตรียมแผนสำรองไว้หากผลออกมาเป็นทางใดทางหนึ่งอยู่หน้างาน พร้อมรับว่า จนถึงขณะนี้หัวหน้าพรรคก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค
นายวิรัช ไม่ขอตอบประเด็นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรค ที่ผ่านมาได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล คงไม่ได้มาเกี่ยวข้อง เพราะรู้ว่าทุกคำพูดที่พูดออกไป อาจมีคนนำไปร้องเรียนอะไรได้จึงต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ
เมื่อถามว่าจะเดินทางไปมูลนิธิป่ารอยต่อหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ขอประชุมกรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรก่อน
นายวิรัช ยังระบุถึงประเด็นที่เป็นกระแสว่าปัญหามาจากการทำโพล ส.ส. พื้นที่ภาคใต้ว่า คงไม่เกี่ยว และตนเองก็ยังไม่ทราบ ประเด็นความไม่เข้าใจกันภายในพรรคถึงได้บอกว่าทุกอย่างบางทีก็มาเร็วไปเร็ว มาเร็วอาจจะขัดแย้งเป็นเหตุได้
ส่วนประเด็นการเปลี่ยนตัวเลขาฯ จะถูกทำแท้งตกไปนั้น นายวิรัช ยังไม่ขอตอบประเด็นนี้เพราะยังไม่สามารถตอบได้
ส่วนปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายในสภาถึงขั้นกฎหมายไม่ผ่านเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีต้องยุบสภาหรือไม่ นายวิรัช ระบุว่า การบริหารงานในสภาฯในฐานะฝ่ายรัฐบาล จะพยายามทำให้ดีที่สุด หากปล่อยก็โหวต ไม่ไหวก็เลื่อน หรืออย่างที่เคยทำมา มีเทคนิคเยอะแยะดังนั้นจึงสามารถชะลอหรือดึงได้ นำญัตติอื่นเข้ามาได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะผ่านมาแล้ว 2 ปีครึ่ง ยืนยันว่า คงไม่ถึงขั้นกฎหมายไม่ผ่าน หรือ นายกฯยุบสภาฯ เพราะไม่มีเหตุผลอะไร
