รมว.ยุติธรรม ส่ง สยจ. ช่วยเยียวยาเด็กถูกพ่อทำร้ายที่สุพรรณฯ-สาวเอนฯ ถูกรุมโทรมที่ชลบุรี กำชับหน่วยงานทำงานเชิงรุก แจงผู้ต้องหา 2 คดีปลดกำไล EM ไปแล้ว ยันระบบคุมประพฤติเข้มข้น ซัดพวกบัวใต้ตมทำสังคมระแวง ขออย่าเหมารวม
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพ่อทำร้ายลูกที่ จ.สุพรรณบุรีว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายเมธี ศรีสุวรรณ ซึ่งได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษจากเรือนจำอำเภอธัญบุรี ได้รับการปล่อยตัวเพื่อคุมความประพฤติ ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 และได้ขอโอนรายงานตัวไปที่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีภรรยาเป็นผู้อุปการะในเขตอำเภอบางปลาม้า จากนั้นได้รับอภัยโทษ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. และพนักงานคุมประพฤติได้ปลดกำไล EM เมื่อวันที่ 22 ก.ย. โดยตนได้สั่งให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว กรณีเด็กถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จากการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น มีสิทธิได้รับการเยียวยา ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยจะได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ ดังนี้ ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ 20,000 บาท และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น 50,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกกรณีคือ สาวเอนเตอร์เทน ได้แจ้งความ ถูกคนร้ายล่อลวงไปรุมโทรมภายในบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สัตหีบ โดยนายชาญณรงค์ หิรัญ เจ้าของบ้านและหนึ่งในผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการพักโทษในคดียาเสพติด โดยเบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วพบว่า นายชาญณรงค์ได้รับการปลดกำไล EM ไปแล้ว
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชลบุรีดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ประสานไปยังผู้เสียหายเพื่อแจ้งสิทธิการให้ความช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ โดยจะได้รับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ฯ ตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดชลบุรี วันละ 336 บาท ตามระยะเวลาที่ผู้เสียหายไม่สามารถประกอบอาชีพได้ไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่นไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัด โดย ตนได้กำชับให้ทั้งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดและกรมคุมประพฤติ ดำเนินการเชิงรุกแล้ว แต่เราทำได้แค่ตามหน้าที่ จะไปก้าวล่วงเรื่องของคดีไม่ได้
“ผมไม่อยากให้สังคมตระหนกกับกลุ่มผู้พักโทษด้วยเหตุพิเศษ อย่าไปเหมารวม คนที่ได้รับการพักโทษจะมีแค่เปอร์เซ็นเดียว ซึ่งเป็นส่วนที่น้อยมาก คือพวกบัวใต้ตม แม้จะได้รับโอกาสแล้วแต่ก็มักจะไม่สำนึกกลับไปทำผิดซ้ำอีก ทำให้ผู้ที่ได้รับการพักโทษหรือสวมกำไล EM มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับสังคม แต่คนที่ออกไปส่วนใหญ่จะกลับตัวเป็นคนดี ไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก และตนขอชี้แจงว่าระบบการคุมประพฤติด้วยกำไล EM มีความปลอดภัย ติดตามได้แม่นยำและเคร่งครัด มีอาสาสมัครคุมประพฤติในพื้นที่ช่วยติดตาม ซึ่งหากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมาย JSOC สำเร็จ การคุมประพฤติของกลุ่มผู้ต้องขังกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังจะมีความเข้มข้นมากขึ้นอีก เพื่อลดการกลับมากระทำผิดซ้ำ และสร้างความปลอดภัยให้สังคมมากขึ้นกว่าเดิม” นายสมศักดิ์ กล่าว