“อัครเดช” จี้ “นายกฯ” เปลี่ยน “อนุกมธ.สภาพัฒน์ฯ” อนุมัติโครงการเงินกู้โควิด

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะโฆษก คณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่าสัปดาห์นี้ กมธ. งดประชุม ส่วนการติดตามการใช้งบประมาณ เบื้องต้นพบว่าใช้เงินเกือบครบแล้ว อย่างไรก็ดียังพบปัญหาการเบิกจ่ายที่ล่าช้า และโครงการต่างๆ นั้นถูกตั้งธงมาจากรัฐบาล ไม่มีความเชื่อมโยงความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ และส.ส.ไม่สามารถสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้หน่วยงานไปปรับแผนงานหรือโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้

นายอัครเดช ยังกล่าวถึงกรณีที่กมธ.ติดตามการใช้เงินกู้ ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 5แสนล้านบาท สะท้อนปัญหาว่าโครงการในงบก้อน 1 ล้านล้านบาทเบิกจ่ายล่าช้าทำให้โครงการไม่เดินหน้าเท่าที่ควร เช่น การสร้างห้องความดันลบ ยอมรับว่าประเด็นดังกล่าวมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน และตนเตรียมเสนอให้กมธ.พิจารณาในการประชุมครั้งหน้า โดยประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลไม่สามารถใช้เงินกู้ วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ทำให้โรงพยาบาลหรือหมอต้องประกาศขอรับบริจาคจากประชาชน เช่น เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น

“สิ่งที่กมธ.ตรวจสอบพบความล่าช้าคือ ระบบราชการ โดยเฉพาะการพิจารณาอนุมัติ ภายใต้อนุกรรมการของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แม้กระทรวงสาธารณสุขจะทำเรื่องเสนอแล้ว แต่ขั้นตอนการอนุมัติล่าช้าและไม่มีกรอบที่ชัดเจน ดังนั้นหากอยากแก้ปัญหาตนมองว่านายกรัฐมนตรี ต้องเปลี่ยนชุดอนุกรรมการฯ ดังกล่าว  นอกจากนั้นในปัญหาที่เกิดจากอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ยังพบว่าไม่มีหลักเกณฑ์อนุมัติที่ชัดเจน เช่น การเสนอของบเพื่อพัฒนาน้ำบาดาล ในพื้นที่จ.ราชบุรีไม่ผ่านพิจารณา แต่บางจังหวัดกลับได้รับการอนุมัติ เป็นต้น” นายอัครเดช กล่าว

นายอัครเดชกล่าวด้วยว่า กมธ.ตั้งข้อสังเกตเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องและเสนอหลายครั้ง ซึ่งได้พูดคุยกับส.ส.เพื่อสะท้อนปัญหาและทำให้เกิดการปรับแนวคิดให้การแก้ปัญหา เยียวยาจากสถานการณ์โควิด แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ  นอกจากนั้นยังพบว่าการใช้งบ คือ งบฟื้นฟู และงบเยียวยา มีการโยกงบประมาณสลับก้อนกัน โดยรัฐบาลเป็นผู้แก้ไขกันเอง

แสดงความเห็น