นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีดีเอสไอ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ แถลงผลการขยายผลการสอบสวนคดีพิเศษที่ 153/2562 กรณีคดีแชร์ Forex-3D
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจากการกระทำความผิดคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้แจ้งข้อมูลให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ ตามที่ได้มีการประสานข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวการสำคัญในคดี พร้อมเข้าตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 7 คัน รวมมูลค่าประมาณ 43 ล้านบาท ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณถนนสุขุมวิทซอย 24 ได้แก่ 1.รถยนต์มาเซราติ SUV สีดำ ราคาประมาณ 7 ล้านบาท 2.รถยนต์พอร์ช Porsch Boxter ราคาประมาณ 5 ล้านบาท 3.รถยนต์เฟอร์รารี่ สไปเดอร์ ราคาประมาณ 18 ล้านบาท 4.รถยนต์ฟอร์ด มัสแตง จำนวน 3 คัน ราคาประมาณ 10 ล้านบาท 5.รถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ ราคาประมาณ 3 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการยึดทรัพย์ มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 11 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพฯ โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท และ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 4 ธ.ค. เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพฯ โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท รวมมูลค่าในการยึดอายัดทรัพย์ทั้งสิ้น ขณะนี้รวมประมาณ 743 ล้านบาท”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการสอบสวนปรากฏจำนวนผู้เสียหายที่ลงทะเบียนแจ้งต่อดีเอสไอเพื่อเข้าให้ปากคำ จำนวนทั้งหมด 11,565 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,585 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีผู้เสียหายเข้ามาให้ถ้อยคำจำนวน 1,739 ราย ซึ่งจะสิ้นสุดการเข้าให้ปากคำในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและเฉลี่ยคืนทรัพย์สินแก่ผู้เสียหายต่อไป หากผู้เสียหายไม่ลงทะเบียนจะไม่มีสิทธิ์ได้เฉลี่ยคืนทรัพย์แต่อย่างใด นอกจากนี้ เตรียมขยายผลบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์หรูทั้ง 7 คนต่อไป