“บิ๊กป๊อก” ยอมรับ ใกล้ชิดปชช.สู้นักการเมืองไม่ได้ นายกฯจึงต้องลงพื้นที่บ่อย เผยนายกฯสั่งงานทุกวัน

วุฒิสภาจัดสัมมนา 2 ปี ส.ว.พบประชาชน ประชาชนได้อะไร? ขณะ “นายกฯ” ส่งคลิปขอบคุณ พร้อมอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครอง ส.ว.-ประชาชน ด้าน “มท.1” ยอมรับ ใกล้ชิดประชาชนสู้นักการเมืองไม่ได้ นายกฯจึงต้องลงพื้นที่บ่อย เผย นายกฯสั่งงานทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาจัดสัมมนาการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2564 “ครบรอบ 2 ปี ส.ว.พบประชาชน ประชาชนได้อะไร?” โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีเปิด และมีรองประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภา และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วม 

นายพรเพชร กล่าวว่า โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนเป็นโครงการสำคัญที่ดำเนินการภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และตามบทเฉพาะการได้มีการกำหนดให้วุฒิสภามีบทบาทในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน ตามแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งการดำเนินการปฏิรูปประเทศนั้นไม่เพียงแค่วุฒิสภาที่จะขับเคลื่อน แต่ต้องใช้ความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วน ซึ่งโครงการวุฒิสภาพบประชาชนถือเป็นเวทีที่วุฒิสภาจะได้พบกับประชาชนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดส่งคลิปวิดีโอกล่าวปราศรัย โดยได้ขอบคุณวุฒิสภาที่มีการดำเนินโครงการวุฒิสภาพบประชาชนมาตลอด 2 ปี ซึ่งการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล และที่ผ่านมาแม้จะมีกลไกต่างๆ ของรัฐในการแก้ไขปัญหาประชาชน แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมปัญหาความเดือดร้อนได้ทั้งหมด ดังนั้น การที่สมาชิกวุฒิสภาเข้ามามีส่วนร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ และยังถือเป็นจุดร่วมระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ก็คือการสร้างความผาสุขให้เกิดแก่ประชาชน และหวังว่าจะมีการดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่อง และขอให้หน่วยงานของรัฐร่วมมือกับโครงการของ ส.ว.เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ดังนั้น ในโอกาสนี้ ตนเองจะขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือดลบันดาลประทานพรให้สมาชิกวุฒิสภา เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและพี่น้องประชาชนทุกคนประสบแต่ความสุขความเจริญ กำลังกายและกำลังใจเข้มแข็ง

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวท่อนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษ ว่า ทราบดีว่าตนไม่ได้มาจากพรรคการเมือง แต่มาทำงานการเมือง ซึ่งการทำงานนั้นยืนยันว่าตนทำงานเหมือนราชการ ทำงานตามเวลาทุกวัน แต่การทำงานในช่วงหลังเมื่อทำงานร่วมกับพรรคการเมือง ก็ได้รู้ว่าเราอ่อนด้อยในเรื่องสำคัญ คือการใกล้ชิดพี่น้องประชาชน โดยพรรคการเมืองนั้นเขาทำงานใกล้ชิดพี่น้องประชน และเมื่อพิจารณาถึงปัญหาของประชาชนกว่า 65 ล้านคน แน่นอนคงมีมากมาย และในบางส่วนปัญหาคงไม่ได้รับการแก้ไขที่ตรงจุด และได้รับการปฏิบัติจากกลไกของรัฐ โดยเฉพาะจากข้าราชการ ที่ไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ดังนั้นจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีต้องลงพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน รับฟังปัญหาและความเดือดร้อน ทั้งนี้วุฒิสภาถือเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตยของรัฐ โครงการวุฒิสภาพบประชาชนนี้เชื่อว่าเป็นไปตามที่ตั้งคำถาม และเชื่อว่าเป็นประโยชน์และประชาชนได้ผลดี ตนขอชื่นชมสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ เป็นชุดที่ทำงานดีที่สุดเท่าที่เคยมี จึงขอให้ดำเนินการแบบนี้ต่อๆไป 

พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า ที่ตนเองไม่ค่อยลงพื้นที่ เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย เวลาลงพื้นที่แต่ละครั้ง จะต้องเป็นคณะใหญ่ ใช้งบประมาณจำนวนมาก แม้ตนเองจะเคยขอให้ลงพื้นที่เป็นคณะเล็ก แต่กระทรวงก็ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ยืนยันว่า ทำงานหนักมาตลอด 

“นายกฯของพวกคุณ สั่งงานผมทุกวัน ไม่เว้นแม้วันหยุดราชการ วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 งาน ซึ่งตนก็ต้องอาศัยข้าราชการด้วย เพราะเรื่องบางอย่างลึกเกินไป ดังนั้น ใช้วิธีการลงพื้นที่พร้อมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ เตรียมข้อมูลเพียงแค่ครั้งเดียว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นงานสัมมนา พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทักทายกับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีหลายคนมารอต้อนรับพร้อมนำสิ่งของมามอบให้กับ พล.อ.อนุพงษ์

แสดงความเห็น