วิปสภาสูง ส.ว.สายตรง ประยุทธ์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท. 12 ยัน ส.ว.เปลี่ยนมติตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องโหวตเหมือนวาระแรก-สอง เหตุ “สถานการณ์การเมือง”เปลี่ยนไปแล้ว ยันไม่เอาด้วยบัตร 2 ใบ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์
พลเอกอกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 12 กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และหนึ่งในวิปวุฒิสภา เปิดเผยหลังการประชุมวิปวุฒิสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายนว่า ในที่ประชุมวิปวุฒิสภาไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องการลงมติวาระสามแก้รัฐธรรมนูญมาหารือแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเอกสิทธิ์ของส.ว. แต่ละคน
พลเอก อกนิษฐ์ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งครั้งนี้ เห็นว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เป็นการทำให้การเมืองย้อนหลังไปถึงยี่สิบปี ตั้งแต่ตอนปี 2544
“ตอนนี้ส.ว.ทุกคนเวลาเจอกัน ต่างก็ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องการลงมติบัตรสองใบวันศุกร์นี้ ทุกคนปิดปากเงียบหมด จากปกติที่เวลามีอะไรก็จะคุยกันตลอด เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักที่ส.ว.จะมีท่าทีเงียบกันแบบนี้ ส.ว.ทุกคนกำลังคิดกันหนัก เลยไม่กล้าพูดอะไร เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าตอนนั้นเกิดเหตุอะไร” พลเอกอกนิษฐ์กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ว.บางส่วนเห็นว่าตอนลงมติวาระแรก กับวาระสอง ได้ลงมติเห็นชอบไปแล้ว หากจะให้เปลี่ยนใจ งดออกเสียงหรือไม่เห็นด้วย จึงเกรงอาจกระสุนตกได้ถ้าเปลี่ยนท่าทีตอนลงมติวาระสาม พลเอกอกนิษฐ์ ระบุว่า คนที่คิดดังกล่าว คงไม่ได้ดูรัฐธรรมนูญหรือดูแล้วไม่เข้าใจเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เพราะการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ทั่วไปของรัฐสภา ตอนลงมติวาระสองเสร็จก็ลงมติวาระสามต่อทันทีในวันเดียวกันเลย แต่การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หลังลงมติวาระสองแล้วให้เว้นไว้ 15 วันถึงค่อยมาลงมติวาระสาม เจตนารมณ์ที่มีการเว้นไว้ 15 วันดังกล่าวก็เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ได้มีเวลาใคร่ครวญไตร่ตรอง ว่าสิ่งที่เคยลงมติไว้ตอนวาระสอง ถึงตอนจะลงมติวาระสาม สิ่งที่เคยคิดไว้มันอาจไม่ใช่ ยังจะมีข้อเท็จจริงอื่นอีกเยอะแยะให้เขาได้รับรู้เข้ามา
“รัฐธรรมนูญเว้นระยะไว้ให้มาลงวาระสามอย่างน้อย 15 วัน ก็อาจจะเป็นเพราะเช่น สถานการณ์การเมืองอาจจะเปลี่ยน มีข้อเท็จจริงใหม่เกิดขึ้น ก็มาตัดสินใจใหม่ก็ได้ มันไม่ได้มีภาระผูกพันว่าลงมติวาระสองแล้วต้องมาลงมติแบบเดิมตอนวาระสาม ยืนยันมันไม่ใช่ภาระผูกพัน ถามว่าสถานการณ์การเมืองเมื่อตอนโหวตวาระสอง กับวันนี้ มันแตกต่างกันหรือไม่ แตกต่างกันใช่ไหม ถ้าหากว่าแตกต่างกัน แล้วเกิดโหวตเห็นชอบไป ถามว่าเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนอย่างไร มันไม่ใช่แล้วไง ถูกไหม มันจึงไม่จำเป็นต้องลงมติวาระสองแล้ววาระสามจะต้องมาลงมติเห็นชอบด้วย เรื่องนี้ต้องไม่คิดง่ายๆ ไม่คิดตื้นๆ” พลเอกอกนิษฐ์ ส.ว.เพื่อนร่วมรุ่น พลเอกประยุทธ์ระบุ
ถามย้ำว่า คิดว่าส.ว.จะลงมติเห็นชอบเกิน 84 เสียงหรือไม่ พลเอกอกนิษฐ์กล่าวว่า ตอบไม่ได้จริงๆ คาดการณ์ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่ตอนนี้ ส.ว.ต่างเงียบกันหมด ยังประเมินยากมาก เป็นเรื่องเอกสิทธิ์ส่วนบุคคล
แสดงความเห็น
