พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ซึ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า ข้อสั่งการเป็นความเห็นชอบ ร่วมกัน และตนไม่เคยเรียกใครไปสั่งบางงาน บางโครงการ ทั้งนี้ตนไม่ได้ติดนิสัยสั่งการแบบเผด็จการ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดต่อการการแก้ปัญหาโควิด-19 โดยย้ำว่ารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างมีขั้นตอน มีกระบวนการรับมือ ตั้ง ศบค. เพื่อแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าระบบสาธารณสุข ไม่ล้มเหลว ส่วนกรณีที่ระบุถึงการจัดหาเอทีเค นั้น ขณะนี้เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ มีจำหน่ายที่ร้านขายยา แล้วแต่ประชาชนเลือกซื้อ การจัดหาเอทีเค 8.5 ล้านชิ้นนั้นจำเป็นต้องจัดหา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งนี้ตนยืนยันข้อสั่งการว่าไม่ได้อ้างถึงองค์การอนามัยโลก และถอดเทปได้ ยอมรับว่าบันทึกอาจมีปัญหา
“รัฐบาล ไม่มีปกปิดยอดผู้ติดเชื้อหรือคนตาย เพราะต้องรายงานไปยังองค์กรระหว่างประเทศด้วย ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ผมไม่อยากพูดให้ท้อแท้ พยายามทำให้ดีที่สุด ผมเสียใจ ผมเสียใจ ที่มีการสูญเสีย ไม่มีใครที่อยากให้เกิดการระบาดเจ็บ หรือตาย ไม่อาจค้าความตาย อย่าใช้คำพูดเว่อร์ หรือคำพูดที่เกินไป ทั้งนี้ผมไม่มีความสุข ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องแบกรับชีวิต ผมเสียใจมากกว่า” พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง ต่อประเด็นข้อกล่าวหาว่าทุจริตด้วยว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่ตนไม่มีเจตนาทุจริตไม่ว่าจะเล็งเห็นผลหรือไม่ ทั้งนี้ผมไม่คุ้นกับการทุจริต ขณะที่การทำงาน ฐานะผมเคยเป็นทหารมาก่อนต้องละเอียด ดูผลดีผลเสีย และหาหนทางที่ดีที่สุด ไม่ได้ใช้อำนาจ ดังนั้นการทำงานจะอยู่บนข้อมูล สถิติ เพื่อประกอบการตัดสินใจเสมอ ไม่ใช่นึกอะไรสั่ง หรือตื่นเช้าก็สั่ง หากทำแบบนั้น คือคนบ้า ผมเป็นกรรมการหลายคณะ สั่งไม่ได้ ตนไม่รู้ว่านายกฯคนไหนสั่งลับหรือเปิดเผย แต่ตนยืนยันว่าไม่มีการสั่งลับ มีแต่เปิดเผย ส่วนการบริหารของศบค. ไม่ใช่เอาทหารมาขับเคลื่อน แต่ต้องทำในงานเชื่อมข้อมูล
“ผมเปิดประเทศไปแล้ว ผมไม่อยากด้อยค่าวัคซีนใดทั้งสิ้น ต้องดูว่ารักษาคนไปเท่าไร ผมเป็นระดับนโยบาย คือ ประธานที่ต้องฟังจากข้างล่าง ฟังความเห็นทุกภาคส่วน ใครจะว่าผมอย่างไรก็ว่าไป แต่พ่อแม่สอนผมว่าไม่ใช้คำพูด เหยียดภาษาหรือดูถูก ผมจะให้สภาฯ เป็นสภาของผู้ทรงเกียรติอย่างแท้จริง ขอบคุณกับคำเสนอแนะที่เป็นประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจง
แสดงความเห็น
