‘ประเสริฐ’ แฉเอกสาร ‘ค่าส่วนต่าง 2 พันล้าน’ ซื้อซิโนแวค ชี้ ‘นายกฯ-อนุทิน’ ตั้งใจโกง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล  ย้ำถึงความล้มเหลวของรัฐบาลต่อการจัดหาวัคซีน และพบพฤติกรรมที่ส่อว่าทุจริต และมีเงินทอน ทั้งนี้ได้นำเอกสารที่ระบุว่าได้มาจากข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และเอกสารที่ระบุไว้ในบันทึกการประชุมของกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาฯ แสดงประกอบการอภิปรายว่า รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรี  (ครม.) เพื่อจัดซื้อ วัคซีนซิโนแวค จำนวน 5 ครั้ง โดย ครม. อนุมัติวงเงินจัดซื้อที่ 17 เหรียญดอลลาห์สหรัฐต่อหนึ่งโดสทุกครั้ง แต่พบว่าทุกครั้งบริษัทที่จำหน่ายวัคซีนให้นั้น ได้ลดราคาให้ต่อเนื่อง โดยครั้งที่สอง  บริษัทขายวัคซีนที่ 15 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ, ครั้งที่สามขายให้ 14 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ, ครั้งที่สี่ ขายให้ 9.5 เหรียญดอลลาห์สหรัฐ และ ครั้งที่ห้าขายให้ 9 เหรียญ ดอลลาห์สหรัฐ  เมื่อรวมราคาที่ครม. อนุมัติ รวม 331 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท คือ 10,846 ล้านบาท แต่ราคาที่จัดซื้ออยู่ที่ 267 ล้านดอลลาห์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 8,748 ล้านบาท  ดังนั้น ค่าส่วนต่างที่มี คือ 2,098 ล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องชี้แจงว่าเงินทอน หรือค่าส่วนต่างอยู่ที่ไหน พร้อมนำเอกสารมาชี้แจงต่อสภาฯ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าตั้งใจโกง

นายประเสริฐ อภิปรายด้วยว่ารัฐบาลมีความล้มเหลวด้านการจัดหาและบริหารวัคซีน ตั้งแต่ไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ โดยพบว่ามีหนังสือสั่งการไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ที่ระบุถึงการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ เพราะให้นโยบายว่าวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ อีกทั้งยังกีดดันวัคซีนทางเลือกโดยไม่อนุญาตให้ภาคเอกชนนำเข้ามาในราชอาณาจักร ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริต มีผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อประโยชน์นายทุน 

นายประเสริฐ อภิปรายขยายความด้วยว่า การนำเข้าวัคซีนยี่ห้อเดียว คือ ซิโนแวค ถือเป็นวัคซีนเส้นใหญ่ เลี่ยงใช้การจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมาย เพราะใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นฉากบังหน้า นอกจากนั้นยังพบว่าการจัดซื้อซิโนแวค เป็นการจัดซื้อแบบเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่การซื้อแบบรัฐต่อรัฐ แม้ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย แต่พบว่ามีนายหน้า มีเงินทอน ทำให้การนำเข้าวัคซีนคุณภาพต่ำ เพราะไม่มีหลักฐานวิชาการอ้างอิง อีกทั้งองค์การอนามัยโลกไม่รับรอง และมีหลายหน่วยงานทักท้วงต่อการจัดซื้อวัคซีนที่ต้องมีคุณภาพ นอกจากนั้นยังพบว่า การจัดซื้อมีราคาสูง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เช่น บราซิล , อินโดนีเซีย 

“มีหลายหน่วยงานที่ทักท้วงต่อการจัดซื้อ แต่ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างแท้จริง ทำให้การจัดหาจัดซื้อวัคซีนไม่โปร่งใสเป็นวัคซีนสายสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจกับบริษัทที่ขายวัคซีนซิโนแวคให้กับประเทศไทยเป็นเหลนของเจ้าสัวใหญ่ของเมืองไทย และบริษัทในเครือเจ้าสัวได้ออกแถลงการณ์ว่าการจัดซื้อซิโนแวคไม่มีเกี่ยวข้องกับบริษัท เพราะเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจี ระหว่างทางการไทยและบริษัทที่ขายวัคซีนซิโนแวค” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ อภิปรายทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ตนขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อตำแหน่งราชการ ไม่ซื่อสัตย์  รวมถึงร่วมจัดหาจัดซื้อวัคซีนไม่โปร่งใส แสวงหาประโยชน์บนความตายและกีดกันวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ผูกขาดตัดตอนให้มีวัคซีนยี่ห้อเดียว เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ทำให้วัคซีนขาดแคลน ดังนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ลาออก ตามข้อเรียกร้องของประชาชน 

แสดงความเห็น