รมว.ยธ. หวังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญาให้สำเร็จในสมัยนี้

รมว.ยุติธรรม หวังเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญาให้สำเร็จในสมัยนี้ หลังอยู่ในชั้นการพิจารณาของ กมธ. ชี้ทำให้คนเชื่อมั่นกระบวนการกล้ามาเป็นพยาน-ปลอดภัยมากขึ้น สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจาก พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 โดยปรับแก้บทนิยามคำว่าพยาน ให้มีความหมายที่กว้างขึ้น ครอบคลุมผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาและจำเลยในคดีอาญา รวมถึงจำเลยที่อ้างตนเป็นพยาน กำหนดแนวทางปฏิบัติให้ต้องมีการประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยก่อนที่จะมีการอนุมัติหรือขยายระยะเวลาคุ้มครอง และยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมมูลฐานความผิด เพิ่มความผิดเกี่ยวกับคดีก่อการร้าย ความผิดเกี่ยวกับเพศ เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคุ้มครองพยาน และยังมีการเพิ่มสิทธิของพยานให้ได้รับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 มาช่วงระยะเวลาหนึ่งพบว่า บทบัญญัติบางมาตราไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน สภาพสังคมและเศรษฐกิจ ภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับพยานที่มาทำหน้าที่เป็นพยานในการพิจารณาคดีอาญา รวมทั้งยังไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของพนักงาน เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 กระทรวงยุติธรรม จึงได้เสนอร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา ที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้พยานได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย แก่พยานที่มาทำหน้าที่เป็นพยานในคดีอาญาสอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจและไม่เป็นภาระแก่พยาน

“ร่างกฎหมายที่ปรับปรุงแก้ไขนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอาญา ทำให้พยานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและกระบวนยุติธรรม ทำให้คนเชื่อมั่นและกล้าที่จะมาเป็นพยานในคดีต่างๆ ซึ่งผมและกระทรวงยุติธรรมจะเร่งผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ให้สำเร็จภายในช่วงสมัยที่ผมยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมอยู่นี้ให้ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น