ส.ส.ก้าวไกล จับตา “งบกลาง” กลายพันธุ์ เตือน ส.ส. ลงมติเพิ่มรายการงบกลาง ส่อขัด ม.144

ผู้สื่อข่าวรายงานในการอภิปราย ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของสภาผู้แทนราษฎรส่วนของมาตรา 6 งบกลาง วงเงินรวม 587,409 ล้านบาท ว่า การอภิปรายได้ใช้เวลายาวนาน เกือบ 3 ชั่วโมง ผู้ที่อภิปรายล้วนติดใจต่อการจัดสรรงบกลาง และการนำงบประมาณซึ่งปรับลดจากหน่วยราชการต่างๆ  หรือ งบแปรญัตติ จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท เติมไปยังงบกลาง โดยเพิ่มรายการใหม่ ว่าด้วยการแก้ปัญหาโควิด-19 และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการอภิปรายของส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ให้น้ำหนักต่อการขอปรับลดงบประมาณตามที่สงวนความเห็นและเสนอคำแปรญัตติ ซึ่งต่างจาก ส.ส.ฝ่ายค้าน เช่น พรรคก้าวไกล ที่เน้นการอภิปรายให้ปรับลดงบประมาณ พร้อมแสดงความกังวลต่อการใช้งบกลางที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะอยู่ภายใต้การพิจารณาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์​โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตต่อการใช้จ่ายงบกลางของปี 2564 พบการแจกจ่ายให้กับพื้นที่ต่างๆ โดยไม่มีหลักเกณฑ์หรือความเหมาะสม

โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยกับมติกมธ.ฯ เสียงข้างมากที่เทงบที่ปรับลดให้งบกลางทั้งหมด เพราะตนฐานะอนุกมธ.ฯ ใช้ความพยายามปรับลดโดยอ้างเหตุผลกับหน่วยงานราชการ แต่ต้องทำเพื่อประชาชน แต่กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกว่า ไถนามาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม   ทั้งนี้การเพิ่มงบอีก 1.6 หมื่นล้านบาท กังวลว่าจะทำให้เกิดงบส.ส.กลายพันธุ์ เพราะที่ผ่านมามีลักษณะว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา ผิดหลักการกระจายงบประมาณอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

“เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พบมีการรใช้งบประมาณ 6,170 ล้านบาท เพื่อแจกทำบ่อน้ำบาดาล 2,117 แห่ง ใน 23 จังหวัด โดยใช้เงินส่วนของงบกลางเพื่อสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและเร่งด่วน หากจะแก้โควิด ทำไมไม่ใช้งบส่วนดังกล่าว ทำไมต้องแจก อีกทั้งไม่มีรายละเอียดการกระจายงบประมาณ ทำไมบางจังหวัดได้ บางจังหวัดไม่ได้ หรือบางจังหวัดได้มากได้น้อยต่างกัน ดังนั้นเรื่องดังกล่าวต้องตรวจสอบ ผมขอฝากไปยัง ส.ส.บางคน หากเป็นส.ส.รัฐบาลอาจลงมติเห็นด้วยเพราะไว้ใจพล.อ.ประยุทธ์ แต่ขอให้ตรึกตรองให้ดีว่าจะเข้าข่าย มาตรา 144 หรือไม่ ที่ห้าม ส.ส.มีส่วนไม่ว่าทางตรงทางอ้อมต่อการเปลี่ยนแปลงรายการ แต่งบกลางที่สภาฯ รับหลักการ ที่มี 11 แผนงาน แต่พอพิจารณาวาระสองมี 12 รายการ” นายสุรเชษฐ์  กล่าว

ขณะที่นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรองประธานกมธ.ฯ ชี้แจงว่า การจัดสรรงบประมาณ ปี 2565 ไม่มีงบประมาณสำหรับแก้ไขโควิด-19 ดังนั้นการพิจารณาปรับลดงบประมาณจากส่วนราชการต่างๆ ในชั้นอนุกมธ.ฯ จึงให้เหตุผลการปรับลดเพื่อดูแลและจัดการสถานการณ์โควิด ดังนั้นเมื่อมียอดการปรับลด 1.6  หมื่นล้านบาท จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจัดสรรในงบกลาง ตามที่ครม.แปรญัตติ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ในปีงบประมาณ 2565 ต้องใช้เงินแก้ปัญหา   

หลังจากการอภิปรายแล้วเสร็จที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 326 เสียงเห็นด้วยกับการแก้ไข ต่อ 52 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง

แสดงความเห็น