รมว.ยุติธรรม ถกกรมราชทัณฑ์เร่งผลิต-ปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้ตามเป้า ย้ำผู้ติดเชื้อต้องลดลง

รมว.ยุติธรรม ถกกรมราชทัณฑ์เร่งผลิต-ปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้ตามเป้า เผยเดือน ส.ค. จะผลิตได้ 4 ล้านเม็ด ย้ำ ผู้ติดเชื้อต้องลดลง ผู้บริหารต้องหมั่นใส่ใจทำงานดักปัญหาอย่าไปไล่ตาม เน้นใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับ นายนิยม เติมศรีสุข รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารและผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ เราต้องเน้นยาแผนไทยอย่างฟ้าทะลายโจรมากขึ้น เพราะจะไปเน้นยาแผนปัจจุบันคงไม่ไหว เพราะราคาแพง หากเราใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายค่าใช้จ่ายจะสูง เราจะต้องเน้นกึ่งป้องกันกึ่งรักษา ขอฝากอธิบดีช่วยกวดขัน หากไม่มีฟ้าทะลายโจรในแต่ละเรือนจำเลยถือว่าสุรุ่ยสุร่าย นอกจากนี้ยังต้องมีสต๊อกไว้ส่วนกลางด้วย เราไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก โดยการไล่ตามปัญหา แต่เราต้องใช้วิธีการดัก เอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ต้องขัง เราจะรู้ว่าโรคเคลื่อนเข้ามาหาเราต้องเตรียมดักโรคเอาไว้ คนที่ติดเชื้อน้อยอาการไม่หนักก็รีบรักษาให้หาย นอกจากนี้ตนได้รับรายงานว่ามียาฟ้าทะลายโจรสำรองในเรือนจำทั้งหมด 4  ล้านกว่าแคปซูล ยังขาดอีกประมาณ 10 กว่าล้านแคปซูล ซึ่งกำลังเร่งหาและผลิตให้ได้ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ โดยภายในเดือน ส.ค.นี้ เรือนจำจะผลิตได้ทั้งหมด 4 ล้านแคปซูล

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ยังมีอีกหลายเรือนจำที่ยังไม่มียาสำรอง ในบัญชียังเป็นศูนย์ ขอให้ไปติดตามเร่งรัด อาจจะรายงานยังไม่ครบหรือยังไม่ได้กรอกรายงานจำนวนเข้ามา สัปดาห์หน้าเราจะมาดูอีกครั้ง ในส่วนของการปลูกและการผลิตเองในแต่ละเรือนจำขณะนี้ตนได้กำชับให้แต่ละเรือนจำปลูกและผลิตโดยเร็วให้เตรียมวัตถุดิบพร้อมไว้ ซึ่งในเดือนนี้จะได้รับปลอกแคปซูล 8 ล้านเม็ด ซึ่งจะแจกจ่ายให้กับแต่ละเรือนจำนำไปผลิต นอกจากนี้ในการปลูกขอให้ศึกษาวิธีการให้ดีใน 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 20,000 – 25,000 ต้น ซึ่งจะได้ผงประมาณเกือบ 500 กิโลกรัม ซึ่ง 1 กก. จะผลิตยาได้ 2,500 แคปซูล หากเรือนจำไหนมีที่ดินน้อยปลูกก็ให้ปลูกติดกันถี่ๆ น่าจะพอใช้ในเรือนจำ ช่วยผู้ต้องขังที่ติดเชื้อได้ โดยการรับให้ยาฟ้าทะลายโจรกับผู้มีอาการต้องสงสัย

“ผมมั่นใจข้อมูลการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ และสังคมก็มั่นใจในข้อมูลของเรา เราต้องเอาใจใส่ดูแลโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงจะลดอัตราการเสียชีวิต วันนี้เราอยู่เหมือนในภาวะสงคราม ผบ.เรือนจำทั้งหลายต้องใส่ใจ ตนจะตามงานในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง และขอให้ผู้มีความรู้ทางด้านแพทย์ ศึกษาการบริหารการใช้ยาต่างๆอย่างไรให้มีคุณค่ามากที่สุด ผู้ติดเชื้อในเรือนจำต้องน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะเราประชุมและทำงานกันอย่างแข็งขัน ต้องได้ผล พวกท่านเป็น ผบ. ที่มีอำนาจสูงต้องทำให้ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องยาก ต้องหมั่นสังเกตผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

แสดงความเห็น