จาก ‘กรวิทย์’ ถึง ‘พรรษา’ สู่ ‘นิรันดร์’

DST.Special Report : แม้ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะขึ้นชื่อว่า เป็น 1 ในทีมที่เปลี่ยนผู้เล่นต่างชาติบ่อยเสียจนจะจำชื่อไม่ได้ว่า ใครเคยมาสวมยูนิฟอร์มบ้าง

แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยกนิ้วให้คือ บุรีรัมย์เป็นสโมสรที่เจียระไน ‘กองหลังชาวไทย’ ได้เยี่ยมยอดเช่นกัน 

มีเซนเตอร์แบ็กอย่างน้อย 2 คน ที่ถูกบุรีรัมย์เอาไปชุบตัว จากพวกโนเนมจนกลายเป็นกองหลังทีมชาติไทยในตัวเลือกลำดับต้นๆ คนแรกคือ ‘เจ้าตุ้ย’ กรวิทย์ นามวิเศษ คนที่สองคือ ‘เจ้าโย่ง’ พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งปัจจุบัน รายหลังยังคงเป็นปราการสายฟ้าให้กับทีมอยู่

สำหรับ ‘กรวิทย์’ ถูกเปรียบเปรยว่า เป็น ‘ซินเดอเรลล่าลูกหนัง’ คนหนึ่ง ชีวิตก่อนเข้าสู่รั้วปราสาทสายฟ้าของเขาช่างเหมือนบทละคร 

เคยเป็นส่วนเกินของแบงค็อก ยูไนเต็ด หาทีมลงเล่นไม่ได้ ไม่ผ่านการคัดตัวกับสโมสรต่างๆ แต่บุรีรัมย์กลับมองเห็นอะไรบางอย่างใน ตัวกองหลังรายนี้ ก่อนกระชากมาอยู่ในอ้อมอกเมื่อปี 2015

ใครต่อใครต่างเกาหัวว่า เจ้าหมอนี่เป็นใคร เหตุใดทีมระดับแชมป์ไทยลีก ถึงยอมจ้างไปเล่น แต่เวลาหมุนติ้วได้เพียงไม่นาน ‘เจ้าตุ้ย’ กลับสถาปนาตัวเองเป็นกองหลังตัวหลักของทัพบุรีรัมย์ จากฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่ง นิ่ง-เยือกเย็น เล่นระบบ 3-5-2 ได้กลมกล่อม
เสียเหลือเกิน

มิเพียงเท่านั้น ยังอาจหาญถูกเรียกไปติดทีมชาติไทย ก่อนจะยึดตำแหน่งตัวจริงอยู่พักใหญ่ๆ ในยุคที่ช้างศึกมีโค้ชชื่อ ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

หลัง ‘เจ้าตุ้ย’ เริ่มดรอป จากอาการบาดเจ็บที่ราวี บุรีรัมย์เริ่มตามหัวตัวตายตัวแทน กระทั่งในปี 2017 พวกเขาไปสะดุดกับเด็กหนุ่มร่างโย่ง ส่วนสูง 190 เซนติเมตร ที่ขอนแก่น ยูไนเต็ด เจ้าหมอนี้ไม่เคยผ่านการลงเล่นให้กับบิ๊กทีม ชื่อเสียงไม่ได้เปรี้ยงปร้าง โปรไฟล์สั้น
จุ๊ด เคยค้าแข้งให้กับทีโอที และจามจุรี ยูไนเต็ดเท่านั้น

แต่รูปร่าง ทางบอล อายุอานาม มันกระตุกสัญชาตญาณนายช่างใหญ่ ผู้เจียระไนเพชรว่า หมอนี้จะเป็นภูผาให้กับยอดทีมแห่งอีสานใต้ได้เหมือนกับที่พวกเขาเคยแทงหวยถูกมาแล้วครั้งนึง

‘เจ้าโย่ง’ ไม่ทำให้ผิดหวัง เดินตามไทม์ไลน์ที่ ‘เจ้าตุ้ย’ เคยทำไว้ อัพเกรดตัวเองจากแข้งลีกรอง สู่การยึดตัวจริงในรั้วบุรีรัมย์ ก่อนจะถูกเรียกเข้าแคมป์ทีมชาติ ยึดตัวจริงในแผนกเกมรับของช้างศึกได้อยู่พักใหญ่ๆ 

ขณะที่ช่วงตลาดซื้อ-ขายที่ผ่านมา บุรีรัมย์ตัดสินใจดึง ‘นิรันดร์ ฮานส์สัน มีมาก’ ปราการหลัง วัยเบญจเพส ที่เกิดในไทยแล้วไปโตที่สวีเดนเข้าสู่ทีม หลังหมดสัญญากับชลบุรี เอฟซี

ฤดูกาลที่แล้ว ‘นิรันดร์’ ลงเล่นให้กับชลบุรีไปร่วม 20 นัด ฟอร์มไม่ถึงกับวิบวับมาก แต่ทรวดทรงองค์เอว และความสูง 180 กว่าเซนติเมตร มันกระแทกต่อมสัญชาตญาณของนายช่างใหญ่แห่งบุรีรัมย์เป็นอย่างมากว่า หมอนี้มีคุณสมบัติที่จะเป็นเพชรเหมือนงาม เหมือน
กับที่พวกเขาเจียระไน ‘เจ้าตุ้ย-เจ้าโย่ง’ มาได้

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า หากเด็ดจริง เหตุใดชลบุรี ถึงไม่พยายามรั้งตัวเขาไว้ แต่อันนั้นคงไม่สำคัญ หากย้อนดูเส้นทางชีวิตของ ‘เจ้าตุ้ย-เจ้าโย่ง’ ก็ไม่ได้พกฟอร์มที่หรูหราอะไรมากนักก่อนมาอีสานใต้ โดยเฉพาะ ‘เจ้าตุ้ย’ ที่หาทีมลงเล่นไม่ได้ด้วยซ้ำ

ปัจจัยสำคัญมันอยู่ที่สภาพแวดล้อม องค์ประกอบของทีม ไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ที่หากได้รับการหว่านปุ๋ย พรวนดิน มีอากาศที่บริสุทธิ์ ย่อมเติบโตได้เร็ว ‘นิรันดร์’ ก็คงเช่นกัน

หลายฝ่ายจับตามอง ‘นิรันดร์’ ค่อนข้างมากว่า จะแสดงแสนยานุภาพ เพื่อตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งได้หรือไม่ว่า บุรีรัมย์เป็นพวก‘สายตาคม’ โดยเฉพาะการเค้นศักยภาพกองหลังเลือดไทย.

__________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Chonburi Football Club

แสดงความเห็น