สภาสูงเอาด้วย พร้อมหนุน พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเสื้อกาวน์-พยาบาล

หนุน พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเสื้อกาวน์-พยาบาล ประธานกมธ.สาธารณสุขเผย บุคลากรทางการแพทย์หน้างาน ยอมรับ กลัวโดนฟ้อง บานตะไท  คาดพ่วงกลุ่มจัดหาวัคซีน ฝ่ายค้านถล่ม

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า ทราบมาว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้นำร่างพระราชกำหนด พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกามาก่อนหน้านี้ โดยหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบพ.ร.ก.ดังกล่าว  ก็คงส่งมายังรัฐสภาให้พิจารณาได้ทันภายในสมัยประชุมนี้

ประธานกมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า ถ้าถามถึงเหตุผลและความจำเป็นในการออกกฎหมาย ต้องถือว่ามีเหตุผล ความจำเป็น เพียงแต่ การออกพระราชกำหนดดังกล่าว รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ต้องตอบสังคมให้ได้ ใน 2-3 คำถาม คือปัจจุบันมีพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด ฯ ที่มีบทบัญญัติครอบคลุมในการให้ความคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานอยู่แล้ว ดังนั้น การออกเป็นพ.ร.ก.ที่จะเกิดขึ้น รัฐบาล ต้องตอบให้ได้ว่า กฎหมายความรับผิดชอบทางละเมิดฯ ที่ใช้ปัจจุบันไม่ครอบคลุมการคุ้มครองหมอ พยาบาล ที่ปฏิบัติงานช่วงโควิดอย่างไร อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้คุยกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานด่านหน้าในช่วงโควิดจำนวนมาก  ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหน้างานในการดูแลคนป่วยโควิด เขาก็บอกตรงกันว่า สิ่งที่ทำวันนี้อาจส่งผลกระทบในวันข้างหน้า เกรงจะมีการฟ้องร้อง

“หมอ เขาก็เคยบอกว่า เขาก็มีความกลัวว่าสิ่งที่เขาทำตอนนี้ ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ป่วย เขามาหาหมอ ที่โรงพยาบาลแล้ว โรงพยาบาลเตียงเต็ม ไม่มีเตียงให้ แล้วเกิดคนไข้เสียชีวิต จะโดนฟ้องหรือไม่ หรือการฉีดวัคซีน ที่ตอนนี้ทางการแพทย์เรียกว่าวัคซีนฉุกเฉินที่บริษัทจดทะเบียนกับองค์การอนามัยโลก ว่าเป็นการอนุมัติกรณีฉุกเฉินเพราะไม่สามารถวิจัยให้ครบ 3-5 ปีแบบวัคซีนปกติ เมื่อนำวัคซีนฉุกเฉิน มาฉีดแล้วต่อไปเกิดมีปัญหาตามมาเช่น เป็นภูมิแพ้ โรคเลือด มะเร็ง คนที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน เขาจะโดนฟ้องร้องได้หรือไม่ หรือแม้กระทั่งฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต การเยียวยาให้ก็เรื่องหนึ่ง แต่เขาใช้สิทธิฟ้องศาล เขาจะฟ้องได้ไหม เพราะตอนนี้เป็นการทำงานแบบฉุกเฉิน พวกเขาก็บอกว่า มันไม่มีกฎหมายคุ้มครอง มีแค่กฎหมายความรับผิดทางละเมิด คือถ้าปฏิบัติงานโดยไม่ได้ประมาท หรือเลินเล่ออย่างร้ายแรง และปฏิบัติงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุข รัฐ ก็คุ้มครองให้อยู่แล้ว หากจะฟ้องก็ต้องฟ้องรัฐ สรุปก็คือ มีเหตุผลและความจำเป็นในการออกกฎหมาย เพราะหน้างานเขาก็มีความกลัว และตอนนี้เขาทำงานภายใต้สภาวะเร่งรีบเพื่อช่วยชีวิตคน แม้จะทำงานด้วยความตรากตรำ แต่หากเกิดผลเสียขึ้นมา ญาติพี่น้องคนไข้ที่เสียชีวิต เกิดไปฟ้องร้องให้ชดใช้ มันจะมีอะไรคุ้มครองเขาไหม จึงถือว่ามีเหตุผลและความจำเป็นในการออกกฎหมาย เพียงแต่กระทรวงสาธารณสุขก็ต้องตอบให้ได้ว่า กฎหมายปัจจุบันคุ้มครองให้บุคลากรทางการแพทย์เพียงพอไหม หากยังไม่เพียงพอ ก็มีเหตุผลในการออกเป็นพระราชกำหนด ตราเป็นกฎหมายใหม่ได้ และรัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่า การออกเป็นพระราชกำหนด มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่  เพราะหากออกเป็นพ.ร.บ.ที่ละเอียดรอบคอบกว่าแต่อาจใช้เวลา  หากเขาตอบตรงนี้ได้ก็ถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะออกเป็นพ.ร.ก.ได้ บอกได้เลยว่า หน้างาน หมอ พยาบาล เขากลัวในสิ่งที่ทำตอนนี้มาก หากมีกฎหมายออกมาจะทำให้เขาทำงานได้สบายใจ” นพ.เจตน์กล่าว

ประธานกมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวอีกว่า ส่วนที่พ.ร.ก.ดังกล่าว จะมีเนื้อหาคุ้มครองผู้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดซื้อวัคซีน ประเด็นนี้ หากรัฐสภาส่งพ.ร.ก.มาที่ รัฐสภา  ก็มีฝ่ายค้านตรวจสอบอยู่ ประเด็นนี้คงมีการอภิปรายค่อนข้างมาก ต้องดูว่า พ.ร.ก.จะให้ครอบคลุมถึงระดับไหน เช่น คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการจัดหาวัคซีนที่ออกมาตามคำสั่งศบค.ที่ออกมาตามพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ  ซึ่งเรื่องวัคซีน ก็อาจจะมีคนนำเรื่องการจัดหาวัคซีนไปฟ้องศาลได้ เขาก็เลยเขียนพ.ร.ก.ออกมาให้คุ้มครองถึงผู้เกี่ยวข้องด้วย

แสดงความเห็น