“แสนยากรณ์” ชี้ “บิ๊กตู่” รวบอำนาจจัดการโควิดครบ 3 เดือน ใช้ไม่ได้ผล ถึงเวลารับฟังคนอื่น

“แสนยากรณ์” ชี้ “บิ๊กตู่” รวบอำนาจจัดการโควิดครบรอบ 3 เดือน ใช้ไม่ได้ผล ถึงเวลารับฟังคนอื่น ยกข้อเสนอ “กรณ์” ออกพระราชกำหนด ปลดล็อกระบบราชการรวมศูนย์ แก้วิกฤตประเทศ อย่ารอจนให้คนมาไล่ปลดนายกฯ ทั้งประเทศ 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ว่า ครบรอบ 3 เดือนที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจแก้ปัญหาโควิด-19 ด้วยวิธีการแบบรวมศูนย์อำนาจกฎหมาย 31 ฉบับไว้ที่ตัวเอง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับสวนทาง ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใกล้แตะหลัก 2 หมื่นคนต่อวันในเร็วๆ นี้ ถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีต้องยอมรับว่า ระบบราชการรวมศูนย์นอกจากไม่ใช่ทางออกแล้ว ยังเป็นอุปสรรคในสถานการณ์วิกฤต จึงขอให้นายกรัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอของนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่เสนอให้รวบรวมปัญหาอุปสรรคที่ทำให้กระบวนการต่างๆ ล่าช้า แล้วปลดล็อกปัญหาต่างๆ ให้มีผลทันทีด้วยการออกเป็นพระราชกำหนด และขอให้พิจารณาแนวทางนี้ในการประชุม ครม. นัดถัดไปทันที 

“ตรวจ Rapid Antigen Test พอพบว่าติดเชื้อ แต่บางโรงพยาบาลไม่รับเข้ารักษา บอกว่าต้องตรวจ RT-PCR ก่อน , หากพบว่าติดเชื้อ ควรแจกยาฟาวิพิราเวียร์ที่จุดตรวจทันที ยามีในสต็อกเดือนสิงหาคมนี้ 40 ล้านเม็ด เดือนกันยายนอีก 40 ล้านเม็ด แต่จุดตรวจหลายที่กลับแจกยาไม่ได้ เพราะยาไปไม่ถึง , ศูนย์พักคอยชุมชนมีประโยชน์มาก แยกตัวจากครอบครัวมากักตัวในศูนย์ที่ชุมชนจัดขึ้น สกัดวงจรการระบาด แต่หลายพื้นที่ตั้งไม่ได้เพราะส่วนราชการในพื้นที่ไม่อนุญาต ทั้งที่ส่วนราชการควรเป็นตัวช่วยทำให้ศูนย์พักคอยเกิดขึ้นทุกพื้นที่ , การกระจายวัคซีนยังไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนโดนเลื่อนคิวหลายครั้ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชา อนุญาตให้บริษัทเอกชนสามารถยื่นขอใบอนุญาตนำเข้าวัคซีนทุกยี่ห้อที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO)แล้ว” นายแสนยากรณ์ กล่าว 

โฆษกพรรคกล้า กล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญหมวดหน้าที่ของรัฐ มาตรา 55 กำหนดว่า รัฐต้องดําเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง แต่หลายคนคนติดเชื้อไม่ได้เตียง บางคนตายคาบ้าน ตายข้างถนน แพทย์พยาบาลทำงานหนักจนติดเชื้อเอง เป็นสัญญาณชี้ชัดว่าระบบสาธารณสุขล้มเหลว รัฐบาลไม่สามารถทำตามรัฐธรรมนูญได้ ถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีควรรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเสียงสะท้อนจากพื้นที่จริง อย่าปล่อยให้ “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” อย่างที่ท่านนายกฯ เคยพูดไว้ ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้คือการออกพระราชกำหนด ปลดล็อกปัญหา อย่าให้ถึงขั้นออกมาไล่ปลดนายกรัฐมนตรีทั่วประเทศ

แสดงความเห็น