เปลี่ยน ‘โค้ช’ แต่ระบบเดิม วิธีแก้แบบวนลูป

DST.Special Report : เมื่อกลางปี 2562 เขาคือ ชาวญี่ปุ่นเพียงไม่กี่คน ที่ต้องแบกความหวังของแฟนบอลคนละเชื้อชาติกับตัวเอง ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เยื้องย่างลงจากสนามบินสุวรรณภูมิ 

เขาคือ คนที่สาวกช้างศึกเชื่อว่า จะเข้ามากู้วิกฤติและยกระดับคลาสบอลของชนชาติแห่งอุษาคเนย์ทีมนี้ ให้ทะลุขีดจำกัดอาเซียน เพื่อไปยืนทะนงในระดับเอเชีย

เขาจุดประกายความหวัง-ความฝัน ให้เหล่าแฟนบอลชาวไทย ด้วยการเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) มหาเศรษฐีน้ำมันจากชาติอาหรับ ที่เราแพ้ทาง 2-1 จากสไตล์การเล่นที่กระตุ้นสารอะดรีนาลีนในร่างกายให้พวยพุ่งแบบไม่หยุดยั้ง

ดวงตาแฟนบอลสว่างไสว เห็นความศิวิไลซ์ของทีมชาติไทยที่รออยู่เบื้องหน้า หากแต่มันลุกโชนเหมือนกองไฟ ที่มอดดับในเวลาอันรวดเร็ว

ผลงานช้างศึกไม่ว่ารุ่นใหญ่-รุ่น 23 ปี ดาวน์ลงในเวลาอันรวดเร็ว และดิ่งถึงขั้นสุดในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป

สุดท้าย กลางปี 2564 เขาและทีมชาติไทย ได้กลายเป็นเรื่องของวันวาน ปิดตำนานความหวังไว้เพียง 2 ปี 

ผลงานของเขาที่ถูกจารึกไว้ในพงศาวดารบอลไทย 20 นัด ได้แก่ ชุดใหญ่ 11 นัด ชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 4 หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะ 18.18 % และชุดยู 23 จำนวน 9 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 3 หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะ 44.44 %

การแยกทางกับเขา มีทั้งแฟนบอลที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในมุมมองและองศาที่แตกต่างกัน

บ้างว่า เขาเข้ามาคุมทีมหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีทีมงานเข้ามาเลย ใช้แต่ตำนานนักบอลไทยที่ยังมีลมหายใจเป็นชาวคณะ จึงไม่สามารถประทับตราได้ว่า เขาล้มเหลว

บ้างว่า มันเป็นความผิดของสมาคม ที่ไม่ได้ซัพพอร์ตการทำงานให้เขามากพอ 

บ้างว่า เขาจัดตัวผู้เล่นตามอำเภอใจลงสนาม ขนาดโค้ชคีย์บอร์ดไลเซ่นส์ ยังเห็นว่า นักเตะคนนั้นๆ มันไม่เวิร์ค

นานาจิตตัง ในเมื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มันโกหกใครไม่ได้ รูปแบบการเล่น-ผลการแข่งขัน มันเห็นกันทนโท่

โมงยามนี้ยังไม่รู้ว่า สมาคมจะไปควานหา กุนซือคนใหม่มาจากแหล่งไหน 

แต่ต่อให้ ‘บิ๊กเนม’ ขนาดไหน หากต้องเขามาเจอกับระบบการทำงานเดิมๆ ของสมาคม ปัญหาก็อาจจะวนลูป

เพราะเปลี่ยนตัวคน ไม่ได้สังคายนาระบบ

ขนาดผู้ชายที่โปรไฟล์หนาเตอะ ที่ชื่อ ‘อากิระ นิชิโนะ’ ยังต้องเอาชื่อมาทิ้ง.

__________
ขอบคุณภาพ FA Thailand
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย

แสดงความเห็น