นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาปมซื้อรถเบนซ์หรูด้วยเงินสดในราคา 5 ล้านบาท ว่า เป็นการจ่ายด้วยแคชเชียร์เช็ค ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับโอนจากภรรยาจำนวน 3.5 ล้านบาท และเงินในบัญชีของตนเองอีก 1 ล้านบาท ออกเป็นแคชเชียร์เช็ค จำนวน 4.5 ล้านบาท ซื้อรถในราคา 4.7 ล้านบาท โดยเงินส่วนที่เหลือเป็นการรูดบัตรเครดิต
ซึ่งตนมีหลักฐานทุกอย่างพร้อมให้ตรวจสอบ หรือตั้งกรรมการตรวจสอบโดยไม่มีข้อกังวลใดๆ แต่จะขอให้สิทธิในการชี้แจง และได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดเรื่องในการกล่าวเท็จเพื่อดำเนินคดีกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามพรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาตน รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองด้วยในฐานะที่นายยุทธพงศ์ เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่กังวลเรื่องเงื่อนเวลา หากสภารับเรื่องไว้พิจารณาตามที่นายยุทธพงศ์ได้ยื่นเรื่องให้ประธานสภาตรวจสอบตามมาตรา 144 จะมีผลต่อการพิจารณางบประมาณ ในวาระที่สองและสาม เพราะตามขั้นตอน จะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนเพื่อความโปร่งใสว่าเงินดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณ ซึ่งต้องใช้เวลาเวลาในการตรวจสอบ และอาจกระทบต่อการพิจารณางบประมาณในเวลา 2และ3 ที่ต้องพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 29 สิงหาคม หรือตามกำหนด 105 วัน ที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่หากไม่ทันให้ถือตามร่างที่รับหลักการในวาระที่หนึ่ง ก็เท่ากับว่าการดำเนินการในชั้นกรรมาธิการในส่วนที่ปรับลดงบประมาณก็ศูนย์เปล่า และงบประมาณของกองทัพที่โดนตัดไปก็จะยังคงอยู่ รวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือที่ถึงแม้ว่าจะถอนออกไปในชั้นกรรมาธิการแล้วก็ตาม เชื่อว่า ข้อกล่าวหาที่นายยุทธพงศ์ร้องต่อประธานสภาจะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรา 144