Home News การเมือง “ยุทธพงศ์” ตั...

“ยุทธพงศ์” ตั้งเป้าตัดงบกลาโหมเพิ่ม เดินหน้าค้านซื้ออาวุธฟุ่มเฟื่อย

“ยุทธพงศ์” ตั้งเป้าตัดงบกลาโหมเพิ่ม เดินหน้าค้านซื้ออาวุธฟุ่มเฟื่อย ถามเหตุใดทร.ซื้อยูเอวีตรวจชายฝั่งทางอากาศ ทั้งที่หน้าที่มิติรบทางน้ำ ด้าน “ปารีณา” ตั้งคำถาม กรมทางหลวงขอซื้อเหมือนทร. ทำไม ไม่ค้าน เหน็บทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์กรมทางหลวง วอนสื่อติดตามพฤติกรรม

การประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีที ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม มีนายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีทีฯ เป็นประธานการประชุม มีตัวแทนของกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศเข้ามาร่วมชี้แจง

ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีที กล่าวว่า วันนี้อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ และไอซีทีฯได้มีการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ตนตั้งเป้าตัดงบประมาณเพิ่มเติม เพราะจากการประชุมกมธ.งบประมาณชุดใหญ่ มีเพียงกองทัพเรือหน่วยงานเดียวที่ยื่นขอถอนโครงการจัดซื้อเรือดำนำลำที่ 2 และลำที่ 3  ส่วนรายการอื่นยังอยู่ครบ วันนี้อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ และไอซีทีฯ จึงต้องมาพิจารณาและเสนอตัดงบประมาณในส่วนต่างๆที่ไม่จำเป็นเพิ่มเติมอีก เช่น โครงการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) เพื่อลาดตระเวนชายฝั่งทะเลของกองเรือ งบประมาณ 4,100 ล้านบาท และพบว่ากองทัพเรือยังซื้อโดรน อีก 570 ล้านบาทในปีเดียวกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่ามิติการรบของกองทัพเรือเป็นทางน้ำ แต่เหตุใดจึงตั้งงบซื้อทางอากาศ รวมแล้วงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท ส่วนกองทัพบกก็มีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์รถถัง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเท่าที่ควร เพราะที่ขอไปทางกองทัพแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งให้  รวมทั้งต้องตามเรื่องการจัดซื้อเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก หรือเรือแอลพีดี ซึ่งเป็นการจัดซื้อเรือแต่ไม่มีระบบอาวุธ จนต้องทำหนังสือไปถึงประเทศจีน เพื่อขอความอนุเคราะห์ติดอาวุธเพิ่มที่กองทัพเรือยังไม่ได้ให้คำตอบเรื่องนี้ วันนี้จะขอดูความเหมาะสมว่าจำเป็นต้องมีการจัดซื้อหรือไม่  อีกทั้งต้องดูบริษัทที่จัดซื้อด้วยว่าเป็นอย่างไร และเป็นการจัดซื้อรูปแบบไหน

“ส่วนตัวจะค้านการจัดซื้ออาวุธที่ฟุ่มเฟื่อย โดยเฉพาะเรือดำน้ำ เพราะมิติการรบปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปแล้ว และเป็นใช้เทคโนโลยีมากกว่า ทั้งนี้ยืนยันว่าจะเสนอตัดรายการซื้ออาวุธที่ไม่จำเป็นเพิ่มเติมอีก หากที่ประชุมไม่ยินยอมก็จะเสนอโหวตลงมติ และถ้าแพ้ก็จะไปสู้ในที่ประชุกมธ.ชุดใหญ่ต่อ เราต้องไม่เกรงใจกัน” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ด้านน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565ได้มาติดตามการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีทีในวันนี้ด้วย พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้สื่อมวลชนติดตามพฤติกรรมของนายยุทธพงศ์ เพราะเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ทางกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมได้มาชี้แจงขอจัดซื้อยูเอวีราคาสูงเหมือนกับกองทัพเรือ  ตนและกมธ.ของพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นราคาสูงกว่าท้องตลาดมากถึง 2-3 เท่า โดยราคายูเอวี 1 ลำมีราคาแสนกว่าบาท และขอให้ตัดงบประมาณในส่วนนี้ รวมยังมีการของบประมาณมหาศาล จึงถูกตัดลดแทบทุกรายการ เพราะราคาสูงหลายเท่า แต่นายยุทธพงศ์กลับมีพฤติการณ์ปกป้องว่ามีความจำเป็น ทำตัวเป็นเหมือนองครักษ์พิทักษ์กรมทางหลวง แต่มาพอถึงงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในส่วนของกองทัพเรือที่เป็นครุภัณฑ์ประเภทเดียวกันกลับคัดค้าน จึงฝากให้ช่วยติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายยุทธพงศ์ และตั้งข้อสังเกตว่านายยุทธพงศ์มีอะไรที่เป็นเบื้องลึกเบื้องหลังกับกรมทางหลวงหรือไม่ หรือมีนอกมีในหรือไม่ ส่วนโดรนของกองทัพเรือสมควรจะจัดซื้อหรือไม่ตนขอไปดูรายละเอียด ทั้งนี้กมธ.ทุกคนควรทำงานอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แค่จ้องตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหม จึงขอให้ดูที่การเสนอราคาและต้องงบฯบางส่วน

น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า รู้สึกเห็นใจกองทัพเรือที่ยอมถอยการจัดซื้อเรือดำน้ำ  เพราะวันนี้เรามีทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับมาเลเซีย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำเฝ้าระวัง หากเราไม่มีความพร้อมเท่าเขาอาจทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติได้  และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จะมาโทษทีหลังว่าทำไมไม่ซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ก็เข้าใจได้ แต่ไม่ใช่กองทัพเรือที่เสนอซื้อเรือดำน้ำ แต่ทุกหน่วยงานก็เสนอซื้อเครื่องมืออย่างอื่นด้วยเช่นกัน

Exit mobile version