“ยุทธพงศ์” ชี้ “นายกฯ” สั่งถอนเรือดำน้ำเพราะสังคมกดดัน เตรียมล้มงบซื้ออาวุธกองทัพอื่นด้วย หลังพบยังพาเหรดซื้อยุทโธปกรณ์เพียบ ไม่สนวิกฤตโควิด ลั่น ยอมแลกด้วยชีวิตตรวจสอบถึงที่สุด
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2565 กล่าวถึงไฮไลท์การพิจารณางบประมาณในวันนี้ว่าเป็นงบประมาณของกระทรวงกลาโหม เรื่องเรือดำน้ำจีน 22,500 ล้านบาท และทราบว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้กองทัพเรือถอดงบจัดซื้อเรือดำน้ำออก เพราะสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 ว่า ที่สั่งให้ถอนออก เพราะจนแต้มหลังกระแสสังคมกดดัน พร้อมย้ำว่ากระบวนการจัดซื้อเรือดำน้ำไม่โปร่งใส เพราะไม่ได้เป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี พบหลักฐานความไม่ชอบมาพากลหรือการทุจริต ซึ่งเป็นจดหมายของ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ยังประเทศจีน เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 เร่งรัดให้มีการลงนามสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำ 2-3 ซึ่งดูรีบร้อนผิดปกติ และยังให้ระดับข้าราชการมาลงนาม ไม่ใช่ฝ่ายบริหารของทางการจีน
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า การขอรับงบประมาณของกองทัพอื่น ทั้งกองทัพเรือ กองทัพบก หรือกองทัพอากาศ ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะยังมีงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะของกองทัพเรือ ก็ยังมีอื่นอีก ทั้งโครงการอากาศยานไร้คนขับ บินชายฝั่ง / โครงการก่อสร้างศูนย์วิทยุควบคุมเรือดำน้ำอีก 300 ล้านบาท ฯ / เรือเอนกประสงค์วงเงินกว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโควิดในปัจจุบัน ประชาชนอดอยาก มีคนไร้บ้านจำนวนไม่น้อย ดังนั้น กรรมาธิการสัดส่วนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่เพียงแค่ตรวจสอบการของงบประมาณของกองทัพเรือเท่านั้น แต่จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบในงบประมาณของกองทับบกและกองทัพอากาศ และกองทัพเรือด้วย
“งบประมาณของกระทรวงกลาโหมในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่จำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ควรตัดทิ้งออกไป ไม่เพียงแค่ชะลอ ตนจะเอาชีวิตเข้าแลกในการตรวจสอบงบกองทัพ”