“หมอระวี” จี้ รบ.ต้องเจรจากับบ.แอสตร้าเซนเนกา ให้ส่งวัคซีนตามกำหนดเดิม ยุ ถ้ายังเฉยให้ดำเนินคดีตาม กม.

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ระบุว่า ขอสนับสนุนรัฐบาลในการเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลไทยแจ้งไว้ตั้งแต่แรก เพราะจากการตกลงล่วงหน้าระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ในการจองซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนการวม 61 ล้านโดส พร้อมกับส่งไทม์ไลน์การขอให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตั้งแต่แรก และทางบริษัทแอสตร้าเซนเนกาไม่ได้ตอบปฏิเสธแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าจำนวนมาก ซึ่งยิ่งทำให้ประเทศไทยมีความจำเป็นที่ต้องได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนกาตามกำหนด ทั้งนี้ ตามข้อตกลงเดือน ก.ค.64 ไทยต้องได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา จำนวน 10 ล้านโดส ปรากฏว่าทางบริษัทแอสตร้าเซนเนกาไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ไทยได้ตามกำหนด ด้วยเหตุผลที่ต้องส่งออกไปให้ประเทศอื่นๆในอาเซียน

“ผมจึงขอสนับสนุนให้รัฐบาลไทยเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนกา เพื่อขอให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตามแผนงานเดิมที่กำหนดไว้ เพราะการเจรจาครั้งนี้รัฐบาลไทยเพียงแต่ขอให้บริษัทแอสตร้าเซนเนกาจัดส่งวัคซีนให้ตามไทม์ไลน์ที่ได้ตกลงกันแล้วเท่านั้น ไทยไม่ได้ขอให้งดการส่งออกทั้งหมดแต่อย่างใด บริษัทแอสตร้าเซนเนกายังสามารถส่งวัคซีนจำนวนที่เหลือไปได้ตามปกติ ซึ่งการที่บริษัทแอสตร้าเซนเนกา ไม่ส่งมอบวัคซีนให้ไทยในภาวะวิกฤตที่มีการระบาดของเชื้อเดลต้ามาก ที่บังคับให้รัฐบาลไทยต้องใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนกาแทน ซิโนแวค จึงมีความจำเป็นอย่างที่สุดที่ต้องขอให้ทางบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ส่งวัคซีนให้ไทยตามข้อตกลง เพราะการแจ้งเลื่อนการส่งวัคซีนฉุกละหุกแบบนี้ไทยไม่สามารถติดต่อสั่งซื้อวัคซีนอื่นมาแทนได้ทัน” นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า มีบทเรียนจากประเทศอินเดีย ที่มีกำลังการผลิตวัคซีนถึง 200 ล้านโดสต่อเดือน และทุกบริษัทในอินเดียก็มีสัญญาส่งให้ภายในประเทศ และส่งออกภายนอกประเทศ เมื่อมีการระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้าอย่างรุนแรง รัฐบาลอินเดียตัดสินใจระงับการส่งออกว่าวัคซีนทั้งหมด 100% ต้องใช้ภายในประเทศเท่านั้น รัฐบาลอินเดียก็ได้ทำมาแล้ว โดยไม่สนใจประชาคมโลกที่จองวัคซีน และปัจจุบันนี้ที่การระบาดในอินเดียลดลงมาแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมให้มีการส่งออก รัฐบาลอินเดียตั้งเป้าต้องฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียให้ได้เป็น 1,000 ล้านคน จึงจะยอมให้ส่งออกวัคซีนได้

“ในอดีตที่รัฐบาลไทยถูกเรียกร้องให้จัดซื้อวัคซีนต่างๆที่หลากหลาย มีคนโจมตีวัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนกา แต่รัฐบาลไทยก็ตัดสินใจเลือกแอสตร้าเซนเนกาเป็นวัคซีนหลัก 61 ล้านโดส และยืนยันมาจนถึงทุกวันนี้ พอในยามวิกฤตบริษัทแอสตร้าเซนเนกา กลับจะมาทิ้งประเทศไทยแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องการเจรจาด้วยเหตุด้วยผลระหว่างสองฝ่ายเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ที่รัฐบาลควรจะทำ สุดท้าย ถ้าการเจรจาแบบมีเหตุมีผลไม่ได้รับการตอบสนอง ผมสนับสนุนให้รัฐบาลไทยต้องเลือกดำเนินการตามกฎหมายที่มี เพื่อบังคับบริษัทแอสตร้าเซนเนกาให้ดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ #THAILAND FIRST” นพ.ระวี กล่าวทิ้งท้าย

แสดงความเห็น