“แรมโบ้” แจ้งความดำเนินคดี “หญิงหน่อย” กล่าวหารัฐบาลฆาตกร ยืนยันไม่ใช่เกมการเมือง ย้อนถามสมัยเป็น อดีตรมว.สธ.มีคนตายเพราะไข้หวัดนกถือเป็นฆาตรกรหรือไม่
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษา กรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ตามกฎหมาย ป.วิอาญา ตามมาตรา 116 และมาตรา 328 ที่กองปราบปรามกล่าวหารัฐบาลฆาตกร กรณีเปิดแคมเปญเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันลงชื่อฟ้องรัฐบาลฆาตกร เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์อันพึงได้รับจากรัฐในฐานะประชาชนท่ามกลางวิกฤตโควิด
นายเสกสกล ระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ยังเล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ยุยง ปลุกปั่น ใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยก ล้มล้างการปกครอง ในสภาวะวิกฤตซึ่งเป็นวิกฤตของคนทั้งโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย โดยรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังเร่งแก้ไขปัญหา รวมถึงไม่ได้ต้องการให้เกิดความสูญเสีย
นายเสกสกล ยังระบุว่า คดีในลักษณะเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีถูกนายจตุพร พรมพันธุ์ ประธาน นปช. แจ้งความกล่าวหา ดำเนินคดีว่าเป็นฆาตกร จากกรณีการสลายการชุมนุมแต่ศาลพิพากษาตัดสินให้นายจตุพรถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท
พร้อมกับเทียบเคียงในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนก ปี 46-49 มีการปกปิดข้อมูล มีประชาชนเสียชีวิต อีกทั้งการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบอีกเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครออกมาแจ้งความดำเนินคดี พร้อมย้อนถามว่ารัฐบาลนายทักษิณ และคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นฆาตกรด้วยหรือไม่
นายเสกสกล ยืนยันว่าการเดินทางมาในครั้งนี้มาในนามส่วนตัวและในนามตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ และไม่ได้แก้เกี้ยวหรือกลัวเสียหน้า พร้อมยืนยันไม่ใช่เกมการเมือง เพราะตนเองไม่มีเวลาในการเล่นการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิปกป้องตนเองตามกฎหมาย และมองว่าคนที่เล่นการเมืองคือคุณหญิงสุดารัตน์มากกว่าที่มาออกแคมเปญเช่นนี้
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ประกาศจะกลับประเทศไทยนั้นยืนยันว่านายทักษิณและนางสาวยิ่งลักษณ์ สามารถกลับมายังประเทศไทยได้ตลอดเวลา แต่ต้องมีเงื่อนไขที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ รวมไปถึงจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ได้ทำไว้กับประชาชนในโครงการรับจำนำข้าวและโครงการอื่นๆ