รัฐบาล สนับสนุนถุงยังชีพกรณีต้องปิดหมู่บ้านจากการแพร่ระบาดของโควิด-19​ ไปแล้ว​ 17​ จังหวัด​ 45​ อำเภอ

นายธีรภัทร  ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลได้มีแผนดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น การติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในภาพรวม ปัญหาและอุปสรรค และแนวทางการแก้ไขปัญหาในแต่ละจังหวัด รวมถึงความช่วยเหลือสนับสนุนถุงยังชีพ ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในการนี้​ นายอนุชา​ นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาเห็นชอบให้สนับสนุนถุงยังชีพให้กับประชาชน ในจังหวัดต่าง ๆ ที่คณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดได้มีคำสั่งปิดหมู่บ้านหรือชุมชน ส่งผลให้ประชาชนและครอบครัวของประชาชนได้รับผลกระทบไม่สามารถจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคได้ โดยเห็นสมควรจัดหาถุงยังชีพ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการส่งมอบเงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ไปให้แก่จังหวัดที่มีมาตรการในการปิดหมู่บ้าน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดำเนินการจัดซื้อจัดหาถุงยังชีพ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในหมู่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม​ 2564 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564​ รวมจำนวน 17 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 45 อำเภอ 106 หมู่บ้าน 10 ชุมชน​ 53​ ตำบล​ 28,241 ครัวเรือน 90,744 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,768,700 บาท (สิบเก้าล้านเจ็ดแสนหกหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) หากพี่น้องประชาชนต้องการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยเพิ่มเติม สามารถบริจาคเงินได้ที่กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่บัญชี  067-0-06895-0 ธนาคารกรุงไทย

แสดงความเห็น