“เจ๊หน่อย-ไทยสร้างไทย” คู่แข่งหรือพันธมิตร โทนี่-พท.

แม้ร่วม 15 ปีที่ผ่านมา “หญิงหน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองอะไร ทั้งส.ส.-รัฐมนตรี นับแต่หลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี-ส.ส. หลังรัฐประหาร คมช. 2549 และโดนเว้นวรรคการเมืองห้าปีจากคดียุบพรรคไทยรักไทย ครั้นพอปลดล็อก พ้นช่วงโดนตัดสิทธิ์ ที่อยู่ในช่วงรัฐบาลเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โดนสกัดจากสองพี่น้องชินวัตร  “เจ๊ปู ยิ่งลักษณ์ -เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” ไม่ให้มีตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลเพื่อไทย

จนมายุค คสช. ก็ไม่มีตำแหน่งใดๆ ร่วมห้าปี พอถึงช่วงเลือกตั้ง มีนาคม 2562 ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดท นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมกับเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับสอง แต่ก็พลาดหมด วืดทั้งแคนดิเดทนายกฯ และ ส.ส. ทำให้อดเข้าสภาฯ เพราะ เพื่อไทย ไม่ได้สัดส่วน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แม้แต่คนเดียว

ทำให้ สุดารัตน์ ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ถึงตอนนี้ ก็ร่วม 15 ปีแล้ว ส่วนตำแหน่งพวก ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก่อนจะลาออกมา  ในความเป็นจริง ก็แค่มีบทบาทในพรรค ไม่ได้มีบทบาทในทางภาพใหญ่ของการเมืองประเทศ  

แต่ก็น่าแปลก ผลสำรวจหรือโพลการเมือง ไม่ว่าสำนักไหน ชื่อ สุดารัตน์ ยังติดอันดับ คนที่ประชาชนหนุนให้เป็นนายกฯ แทบทุกครั้ง      ล่าสุด เมื่อเร็วๆนี้คือ เมื่อ 20 มิ.ย. 2564 นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ที่เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส จำนวน 2,515 หน่วยตัวอย่าง

นิด้าโพล ระบุว่า จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.65 ระบุว่า ยังหาคน  ที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 19.32 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

“อันดับ 3 ร้อยละ 13.64 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะ อยากให้ผู้หญิงขึ้นมาบริหารประเทศบ้าง มีประสบการณ์การทำงาน บริหารงานที่ผ่านมาได้ดี มีผลงานที่โดดเด่น เป็นคนตรงไปตรงมา และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว”

ด้วยเหตุนี้ แม้ หญิงหน่อย ยามนี้ จะไม่ได้มีตำแหน่งการเมืองใดๆ แต่แวดวงการเมือง ยังให้ความสนใจติดตามความเคลื่อนไหวของ สุดารัตน์ เสมอมา

แม้ยามนี้ “พรรคไทยสร้างไทย” ที่หญิงหน่อย สร้างมากับมือ จะเพิ่งก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างได้แค่ประมาณสี่เดือนนับแต่ตั้งพรรค แต่ทุกฝีก้าวของ หญิงหน่อย-ไทยสร้างไทย ถูกจับตามองตลอด ด้วยความเป็นนักการเมืองที่อยู่บนถนนการเมืองมายาวนานตั้งแต่ช่วงลงเล่นการเมืองครั้งแรกตอนปี 2534 นับถึงตอนนี้ก็คือ อยู่ในแวดวงการเมืองมาสามสิบปีแล้ว เรียกได้ว่า มีคนรู้จัก-มีเครือข่าย หลายวงการ จึงทำให้ การตั้ง ไทยสร้างไทย ของสุดารัตน์ ที่ตอนนี้ รั้งตำแหน่ง ประธาานพรรคไทยสร้างไทย เลยมีกระแสข่าวออกมาหลายกระแส โดยเฉพาะเรื่องที่หลายคนสนใจและสงสัยกันว่า “แบ็คอัพ” ให้หญิงหน่อย ตั้งพรรค คือใครกันแน่ บางกระแส ปล่อยข่าวลือ ถึงขั้นว่า ได้รับการช่วยเหลือจาก คนในฝ่ายรัฐบาลนี้เสียด้วยซ้ำ จนสุดารัตน์ ต้องออกมาปฏิเสธ และยืนยันเสียงแข็ง ไม่ขอจับมือกับเครือข่ายฝ่ายเผด็จการ แต่ทว่า เรื่องแบบนี้  ต้องดูกันยาวๆ

เพราะทุกวันนี้เรื่อง แบ่งขั้ว ประชาธิปไตย-เผด็จการ มันเชยไปแล้ว ยิ่งเลือกตั้งรอบหน้า หากยังชูกระแสนี้อยู่ ก็เรียกว่าหลงยุค เลยทีเดียว พอกระแสนี้จางลง  มันก็อาจทำให้ เหตุผลที่ ไทยสร้างไทย จะผูกมิตรกับบางพรรคแม้แต่กับพลังประชารัฐ  แวดวงการเมือง ก็ยังคิดว่า สูตรนี้ ใช่ว่า จะเกิดขึ้นไม่ได้ !

ล่าสุด เมื่อสแกนความเคลื่อนไหว สุดารัตน์-ไทยสร้างไทย ที่ออกมาเคลื่อนไหวการเมืองท่ามกลาง โควิดระบาดหนัก ก็คือการจัดงาน ไทยสร้างไทย เดินหน้าสร้างประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ บ้านพักของ สุดารัตน์ ย่านซอยลาดปลาเค้า ที่ใช้เป็นที่ทำการพรรคชั่วคราว

งานดังกล่าว ถือได้ว่า เป็นงานเปิดตัว พรรคไทยสร้างไทย อย่างเป็นทางการ ที่มีการเตรียมการไว้นานเป็นเดือนแล้ว ตั้งแต่โควิดยังไม่ระบาดหนักติดเชื้อกันวันละหลายพันคน งานดังกล่าว ยังมีการประชุมตัวแทนสาขา ตัวแทนสมาชิกพรรคทั่วประเทศ กว่า 300 เขต ผ่านระบบ Zoom ด้วย

สาระสำคัญ ของงานดังกล่าว ท่าทีทางการเมืองของหญิงหน่อย ที่ประกาศในงาน ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หวือหวา จนเรียกเสียงฮือฮาอะไรมากนัก

เพราะสิ่งที่พูดในงาน ก็บอกกับสื่อมานานแล้ว โดยเฉพาะการย้ำเรื่อง ต้องการสร้าง พรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่จะส่งมอบให้คนรุ่นต่อไป โดยจะขอทำหน้าที่เป็น เสาเข็ม ให้กับคนอื่นๆในพรรค เพื่อทำให้เป็นสถาบันทางการเมืองต่อไปในอนาคต

เช่นเดียวกับ คำกล่าวของอีกหลายคนในพรรคไทยสร้างไทย ที่มาร่วมเปิดตัวกับสุดารัตน์ในงาน แล้วพูดในงาน  ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรแปลกใหม่หรือแหลมคม

ไม่ว่าจะเป็นโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา -วัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์-น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตโฆษกรัฐบาลยุคทักษิณ ชินวัตร เพื่อนสนิทพานทองแท้ ชินวัตร หรือกลุ่มที่ หญิงหน่อย พยายามปลุกปั้นขึ้นมาเป็น นักการเมืองรุ่นใหม่ อีกหลายคน พบว่าภาพรวม เนื้อหาในการพรีเซนต์ แนวทางของ ไทยสร้างไทย ยังไม่ถึงกับ “โดน-ปัง” มากเท่าไหร่ แต่ก็มีบางแนวคิดที่ขายออกมาแล้ว ก็น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่อง

“การเป็นพรรคที่ให้ความสำคัญและต้องการช่วยเหลือคนตัวเล็กในสังคม”

ไม่ว่าจะเป็นพวกทำธุรกิจเอสเอ็มอี -กลุ่มสตาร์ทอัพ -คนหาเช้ากินค่ำ -คนที่เข้าถึงโอกาสทางธุรกิจได้ยากเพราะขาดแหล่งทุน ดูแล้วหาก ไทยสร้างไทย ย้ำแนวคิดนี้ไปเรื่อยๆ เรื่อง “ช่วยคนตัวเล็ก” ก็อาจติดตลาด ทำให้คนจำพรรคไทยสร้างไทย ในเรื่องนี้ได้

แต่เรื่องที่หลายคนสนใจ โดยเฉพาะแวดวงการเมือง ก็คือ นอกเหนือจากพวกอดีตแกนนำ-อดีตส.ส.เพื่อไทย -อดีตผู้สมัครส.ส.เพื่อไทยและคนดัง  ที่ย้ายมาอยู่กับ หญิงหน่อย ที่พรรคไทยสร้างไทย ไม่ว่าจะเป็น โภคิน พลกุล-วัฒนา เมืองสุข-น.ต.ศิธา ทิวารี-ต่อพงษ์ ไชยสาสน์ อดีตรมช.สาธารณสุข -พงศกร อรรณนพพร อดีตรมช.ศึกษาธิการ  แล้วหลังจากนี้จะมีใครมาอยู่ไทยสร้างไทย อีกบ้าง

ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีชื่อ มีข่าวปรากฏให้เห็นเพิ่มกันอีกหลายคน อาทิ เดอะแป๊ะ  ประวัฒน์ อุตตะโมต อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์  ซึ่งเลือกตั้งที่ผ่านมา ไปลงไทยรักษาชาติแล้วพรรคโดนยุบก่อนเลือกตั้ง รวมถึง มีข่าวว่า นอกจากนี้ ก็ยังมี สามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาฯ ที่สอบตกส.ส.เชียงราย ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา  ก่อนจะมาแตกหักกับ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ในการส่งคนลงนายกฯอบจ.เชียงรายของเพื่อไทย มาตอนนี้ ก็มาช่วย เจ๊หน่อย สร้างไทยสร้างไทย ด้วยเช่นกัน

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ก็มีนักการเมือง ส.ส.ปัจจุบัน -อดีตผู้สมัครส.ส. มีการติดต่อกับคนในไทยสร้างไทย กันเข้ามาหลายคน ทำนอง เกริ่นๆ ถามถึงเรื่องการตั้งพรรคไทยสร้างไทยว่าจะทำจริงจังแค่ไหน เป็นพรรคเฉพาะกิจหรือไม่ -หากเข้ามาแล้ว จะได้ลงสมัครส.ส.หรือไม่ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

ตามข่าวพบว่า การหยั่งท่าทีดังกล่าว มีนักการเมืองทั้งในฝั่งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน มีการติดต่อกับคนของไทยสร้างไทย แบบคุยกว้างๆ โดยไม่มีข้อตกลงหรือข้อผูกมัดอะไรทั้งสิ้น บางคน ก็คุยกับแกนนำไทยสร้างไทย เพราะเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ในเสื้อพรรคเพื่อไทย ที่หญิงหน่อย คุมพื้นที่กทม.อยู่ แต่เลือกตั้งที่ผ่านมา ได้พาสชั้นขึ้นเป็นส.ส.กทม. แต่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ โดยมีข่าวออกมาทำนองว่า มีการถามข่าวเรื่องการส่งคนลงเลือกตั้งส.ส. ของไทยสร้างไทย เหมือนกับต้องการหยั่งเชิงข้อมูลบางอย่าง เป็นต้น

 “แหล่งข่าวจากพรรคไทยสร้างไทย” รายหนึ่ง บอกกับทีมข่าว Theagendathai โดยบอกว่า การพูดคุยกันของนักการเมือง คนในแวดวงการเมือง แม้จะอยู่กันต่างขั้ว แต่ก็คุยกันได้ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะคนในไทยสร้างไทย หลายคนอยู่ในวงการการเมืองมาร่วม 20-30 ปี จึงรู้จักหมดทั้งส.ส. และแกนนำพรรคฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาณการเลือกตั้ง การยุบสภาฯ การพูดคุยก็เป็นการคุยกันในภาพกว้างๆ ไม่ได้มีข้อผูกมัดหรือมีสัญญาใจทำนองว่าเลือกตั้งแล้วจะมาอยู่ด้วย แต่คุยกันเหมือนอยากรู้ทิศทางพรรคไทยสร้างไทยมากกว่าจะทำการเมืองแบบไหนเพื่อคนที่มาคุยด้วยจะได้ตัดสินใจถูก

“เรื่องที่มีข่าวทำนองว่ามีคนของพลังประชารัฐ หรือก้าวไกล มาคุยกับคนของไทยสร้างไทย ก็มีบ้าง ขนาดส.ส.เพื่อไทยตอนนี้ หลายคนก็มาคุยมาถามเช่นกัน ทั้งส.ส.อีสาน ส.ส.กทม. ของเพื่อไทย เพราะส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่การคุย ก็ไม่ได้มีข้อตกลงอะไรว่า จะมาหรือไม่มา แล้วหากจะมา จะมีเงื่อนไขอะไร เพราะสัญญาณเลือกตั้งมันยังไม่มี คนก็คงไม่มาคุยแบบจริงจังตอนนี้ บางส่วน ก็อาจมาคุยกันกว้างๆ ในเรื่องรายละเอียดข้อกฎหมายบ้างเช่นกัน ว่าการสังกัดพรรคการเมืองก่อนลงเลือกตั้ง ต้องสังกัดอย่างน้อยกี่วัน กรณีหากมีการยุบสภา และกรณีหากสภาอยู่ครบเทอมต้องสังกัดกี่วัน  เพราะจำนวนวันในสองกรณีนี้ แตกต่างกัน  เพื่อจะได้รู้กรอบข้อกฎหมาย หากจะย้ายพรรคมาจริง  จะต้องทำเมื่อใด เพื่อจะได้ทันตามข้อกฎหมาย ยอมรับว่า มีคนของทั้งพรรครัฐบาล ฝ่ายค้าน หลาายคนมาคุยกับคนของไทยสร้างไทยจริง” แหล่งข่าวจากไทยสร้างไทยรายหนึ่งให้ข้อมูล

“แหล่งข่าวจากพรรคไทยสร้างไทย” รายเดิม บอกด้วยว่า ถึงตอนนี้ ชัดเจนแล้วว่า สนามเลือกตั้ง สนามแรก ที่พรรคไทยสร้างไทย จะเข้าสู่สังเวียนก็คือ สนามเลือกตั้งท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการส่งคนลงสมัครเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานครหรือส.ก. เพราะตอนนี้เตรียมคนไว้แทบครบหมดแล้วทั้ง 50 เขต ที่ก็มีทั้งหน้าใหม่ และที่ย้ายมาจากพรรคอื่นๆ เช่น เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ เป็นต้น ส่วนผู้ว่าฯกทม.ถึงตอนนี้ พรรคยังมีแนวคิดส่งอยู่ และอยู่ระหว่างการหาคนที่เหมาะสมเพราะมีเวลาอยู่

ข้างต้น คือความเคลื่อนไหวของ สุดารัตน์-ไทยสร้างไทย ที่ถึงตอนนี้ พบว่าโทนข่าวที่ออกมา ค่อนข้างไปในทางว่า แยกกันเดิน กับ ทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทยแน่นอนแล้ว จนที่ผ่านมา คนในเพื่อไทย เอง ก็วางแผนการเมือง เพื่อตัดคะแนนพวกฐานเสียงของ สุดารัตน์-ไทยสร้างไทยในกทม.  แต่หัววัน รวมถึง การสกัด ชักจูง ไม่ให้ส.ส.กทม.สายหญิงหน่อย ออกไปอยู่ไทยสร้างไทย จนหลายคนที่เคยคิดกันว่าย้ายไปอยู่กับไทยสร้างไทยแน่ ถึงตอนนี้  เริ่มทำตัวออกห่าง หญิงหน่อยแล้ว

กระนั้น ขอให้เชื่อเถอะ เห็น เพื่อไทย -ไทยสร้างไทย ตัดเหลี่ยม แกนนำเขม่นกันแบบนี้ แต่ครั้นถึงเวลาจริงๆ สองพรรคนี้แหละ ที่จะเป็นพรรคพันธมิตรทางการเมือง กันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหลังเลือกตั้ง หากมีโอกาสเอื้อให้ จับมือ ชิงตั้งรัฐบาลแข่งกับพลังประชารัฐ

ถึงเวลานั้น โทนี่ ทักษิณ เพื่อไทยและหญิงหน่อย ไทยสร้างไทย จะกลับมาจูบปากการเมืองกันแน่นอน ไม่เชื่อก็คอยดู

แสดงความเห็น