ตำรวจ แถลง สรุปเคลื่อนไหวม็อบ รู้ตัวชัด 70 รายต้องดำเนินคดี เจ้าหน้าที่เร่งประมวลพยานหลักฐาน

ที่กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการชุมนุม เมื่อวันที่ 2,3 และ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยวันที่ 2 กรกฎาคม มีกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม และกลุ่มคณะราษฎร ซึ่งมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” กับพวกร่วมชุมนุมกันบริเวณแยกอุรุพงศ์ ก่อนเคลื่อนมายังแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ

ขณะเดียวกัน วันที่ 3 กรกฎาคม มีกลุ่มผู้ชุมนุม 3 กลุ่มหลัก กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา กลุ่มไทยไม่ทน นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ กลุ่มคาร์ม็อบ โดยมีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งหลักๆในวันนี้เป็นการชุมนุมที่เชิงพานชมัยมรุเชฐ ส่วนกลุ่มคาร์ม็อบ จะมีการเคลื่อนจุดชุมนุมไปมา ตั้งแต่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปจนถึงแยกราชประสงค์ ก่อนกลับมาที่แยกนางเลิ้ง และวันที่ 4 กรกฎาคม มี 3 กลุ่ม กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กลุ่มศิลปินราษฎร และกลุ่มนายวิรัช แซ่คู ซึ่ง 3 กลุ่มมวลชนไม่มากนัก

จากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งวันที่ 2,3 และ4 กรกฎาคม เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ,ฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 25 ,ความผิดการจัดกิจกรรมเสี่ยงต่อการควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ,เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความผิดการกีดขวางเส้นทางการจราจร

ส่วนมีกลุ่มบุคคล ที่การลักลอบจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการเปิดท้ายขายของ ในการชุมนุมวันที่ 2 กรกฎาคม จะมีความผิด จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้รับอนุญาต โดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สุรา และพ.ร.บ.แอลกอฮอล์อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งในการกระทำผิดของผู้ชุมนุมนั้นเกิดขึ้นในหลายท้องที่ สน.นางเลิ้ง สน.ปทุมวัน สน.สำราญราษฎร์ และสน.พญาไท

ทั้งนี้ พนักงานสืบสวน พบว่า มีกลุ่มบุคคล ที่สามารถพิสูจน์ทราบได้แล้ว ต้องถูกดำเนินคดี จำนวนทั้งสิ้น กว่า 70 ราย ส่วนที่เหลือยังคงอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล รวมถึงรถยนต์ที่ใช้กระทำความผิด อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิด เพื่อจะสามารถระบุผู้ที่กระทำความผิดเพิ่มเติม และจะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในเร็ววันนี้

สำหรับที่มีผู้ชักชวนในประการหนึ่งประการใด บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแกนนำให้การจัดกิจกรรม คาร์ม็อบ จึงถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ตลอดจนกลุ่มผู้เข้าร่วมด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมนี้ โดยการบีบแตร ถือว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ มีการกีดขวางการจราจร หรือมีการทำให้เกิดอันตราย ต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนน หากทำให้เกิดอันตราย ก็จะมีการแจ้งข้อหา พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ เพิ่มไปอีก

อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะออกมากระทำความผิดนั้น ทางตำรวจไม่ได้ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ทางตำรวจจะใช้วิธีรวบรวมพยานหลักฐาน และมีการดำเนินคดีภายหลัง เนื่องจากหากเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในเหตุเฉพาะหน้า บางครั้งอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันได้

แสดงความเห็น