ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน และเป็นเรื่องปกติของระบอบรัฐสภา เมื่อเปิดสมัยประชุมฝ่ายค้านก็มีเอกสิทธิที่จะยื่นอภิปรายฯได้ ทั้งนี้ ก็ต้องมาดูเนื้อหาว่าฝ่ายค้าน มีข้อมูลรายละเอียดอย่างไร อย่างตนทำงานในรัฐบาล ก็เห็นแต่ละฝ่ายทุ่มเททำงาน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ อีกทั้งมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง บางท่านไม่ได้อยู่ในวงทำงาน ก็อาจมีความคิดหรือแนวคิดที่แตกต่างกันไป ก็ต้องมีการพูดคุยรับฟังและชี้แจงในสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าความระหองระแหงของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นจุดบอดให้ฝ่ายค้านโจมตีได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จุดบอดถือเป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล เราอยู่กันมา 2 ปีแล้ว ซึ่งถ้านับกันจริงๆเราเลยจุดครึ่งทางของรัฐบาลชุดนี้มาแล้ว ดังนั้นก็เป็นเหมือนการนับถอยหลังสำหรับทุกๆรัฐบาล
“ที่ผมพูดอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลนี้กำลังนับถอยหลังแล้ว แต่เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาล จะเจอเหมือนกัน เมื่อทำงานไปสักพักหนึ่ง ก็ย่อมมีเรื่องที่ว่า การทำงานมีความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องเหล่านี้มาแตกให้เป็นรายละเอียดในการอภิปราย เพื่อให้ประชาชนได้เห็น ถือเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่มีฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายทำงาน ก็ต้องว่ากันไปตามฝ่ายนิติบัญญัติ” นายวราวุธ กล่าว
เมื่อถามว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันมองความขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และภูมิใจไทย(ภท.) ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ตนเห็นมาทุกยุคทุกสมัย ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดโควิด -19 ในขณะนี้ที่จะมีความซับซ้อนและ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในการแก้ปัญหา ซึ่งหลายประเทศก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป สำหรับประเทศไทยก็ไม่แตกต่างจากประเทศอื่น และเชื่อว่า เมื่อเทียบกับหลายประเทศแล้วมาตรการในการแก้ไขของประเทศไทย มีประสิทธิภาพไม่แพ้หลายประเทศเลย แต่แน่นอนว่ามีบางประเทศทำได้ดีกว่าเรา แต่ประเทศที่ทำแย่กว่าเราก็มีเช่นกัน ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ก็พยายามกันอย่างเต็มที่ ซึ่งก็แน่นอนว่าอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง ก็เป็นสิทธิที่ฝ่ายค้านจะนำประเด็นมาอภิปรายได้
เมื่อถามถึงกรณี นิด้าโพล เสนอให้ ส.ส. และ รัฐมนตรีบริจาคเงินเดือนเพื่อมาช่วยในสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด -19 เช่นนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นนโยบายก็ไม่ขัดข้อง ถ้าออกมาเป็นแนวทางเชื่อว่า ส.ส. และ รัฐมนตรี ก็พร้อม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส.ส. ก็มีรายจ่ายค่อนข้างมากมาย โดยเฉพาะภาษีสังคมต่างๆ
เมื่อถามว่าจะยอมเสียสละสักร้อยละ30 จะยอมรับได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้านับจำนวนส.ส. และ ครม. ที่มี ก็ไม่ได้เยอะอะไร ถ้าตัดออกมาจากเงินเดือนและ เงินที่ได้รับ ก็เหมือนเอาเนื้อหนูไปแปะเนื้อช้าง แต่ก็อาจมีผลกระทบทางด้านจิตใจ ซึ่งถ้าทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ทุกคนก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไร พร้อมที่จะให้หักเงินเดือนตัวเอง