“ชวน” แจงปมองค์ประชุมล่ม ชี้ ไม่แสดงตนอาจเจตนาไม่ลงมติ ยัน สภามีมาตรการเข้มโควิด

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่องค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มเมื่อวานนี้ ว่า ยืนยันว่าการประชุมเมื่อวานครบองค์ประชุม ต้องขอบคุณสมาชิกส่วนใหญ่ยังร่วมมือกันในการทำงาน แต่ว่าในตอนหลังที่ตรวจสอบองค์ประชุม ความจริงแล้วสมาชิกอยู่กันในห้อง บางคนอยู่นอกห้องแต่ทราบว่าเขามีปัญหาเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตรายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งมีความเห็นขัดแย้งกับสมาชิก จึงหาข้อยุติไม่ได้ว่าจะถอนหรือลงมติ ในที่สุดสมาชิกส่วนหนึ่งก็คิดว่าจะให้กลับไปทบทวนร่างกฎหมายฉบับนี้ จึงไม่แสดงตนเพราะเกรงว่าลงมติแล้วจะมีปัญหา ตนไม่ได้แก้ต่างแทนส.ส.ทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในที่ประชุมแต่ไม่ได้กดบัตรแสดงตน เพราะอาจจะเจตนาไม่ให้มีการลงมติในมาตรา 6 

เมื่อถามว่ากรณีที่ไม่กดบัตรแสดงจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า สภาก็ต้องตรวจสอบและยอมรับในการตรวจสอบอะไรที่มีปัญหาว่าไม่ถูกต้อง ตนเห็นด้วยว่าจะต้องช่วยกันตรวจสอบแต่ในเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรามีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ตนได้ให้นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ดูทุกวันถึงได้ทราบว่ามีใครในสภาติดโควิดบ้าง เช่น แม่บ้าน คนครัว ซึ่งมีรายชื่อคนติดเชื้อทุกคน นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ ก็ทำงานเข้มงวดคือไม่ให้คนติดเชื้อกลับเข้ามาในสภา ฉะนั้นการคุมคนติดเชื้อเรียกว่าคุมได้ร้อยทั้งร้อย แต่สิ่งที่ห่วงคือเรื่องการมีคนจำนวนมาก โอกาสรั่วไหลอาจจะเป็นไปได้ก็พยายามอย่าไปย่อหย่อน เรื่องอะไรที่เห็นว่าไม่ถูกต้องก็ต้องพยายามแก้ไข 

นายชวน กล่าวต่อว่า ตนได้ให้ทางเลขาธิการสภารายงานแล้วว่าเรื่องเป็นอย่างไร เราต้องเป็นตัวอย่างปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลได้ออกมา ฉะนั้นที่สมาชิกเป็นห่วงว่าเราจะประชุมได้หรือไม่ ตนได้ให้ฝ่ายเลขาธิการสภาประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง นอกจากนี้เพื่อความสบายใจตนยังได้โทรศัพท์ส่วนตัวไปหาเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่มีอะไร เพราะได้อนุมัติไปแล้วว่าสามารถประชุมได้ตลอดสมัยประชุมนี้ เมื่อวานนี้ก็มีสมาชิกปรารภถึงสมาชิกที่อยู่ต่างจังหวัดต้องถูกกักตัว 

นายชวน กล่าวต่อว่า ตนจึงโทรศัพท์คุยกับปลัดกระทรวงมหาดไทยให้เลขาธิการสภาทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยขอความร่วมมือในทุกจังหวัดในพื้นที่ที่มีปัญหา ว่าขอให้ความสะดวกกับสมาชิกที่จะมาประชุม ไม่ทำอะไรที่เป็นการกักตัวสมาชิก ทุกเรื่องที่มีปัญหาก็จะคลี่คลายให้ได้ทั้งหมด เพราะเราเสียเวลาเฉพาะ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายไปหลายสัปดาห์แล้ว หากไม่ประชุมเราก็ทำงานอย่างอื่นได้แต่เมื่อประชุมแล้วองค์ประชุมไม่ครบก็เสียเวลา คิดว่าผู้เสนอกฎหมายคือรัฐบาลคงไปทบทวนและถ้ายืนยันสัปดาห์หน้าก็คงจะได้ลงมติ 

เมื่อถามว่าที่ประชุมสามารถออกเสียงให้ถอนพ.ร.บ.วัตถุอันตรายออกได้แต่เพราะอะไรจึงใช้เทคนิคไม่กดบัตรแสดงตน นายชวน กล่าวว่า ตนก็ได้ถามเหมือนกันและทราบว่ายังหาข้อยุติไม่ได้

ตนได้ถามกมธ.ว่ากฎหมายนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไรหรือไม่ ทางอย.ยืนยันว่าต้องการด่วนมาก เพราะขณะนี้ใช้มาตรา 44 อยู่ ตนจึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นทางฝ่ายผู้ปฏิบัติต้องบอกรัฐมนตรี แต่เผอิญว่ามีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องจึงดูเหมือนว่าแต่ละกระทรวงไม่ได้มาเจาะจงดู ปล่อยให้เป็นเรื่องของกมธ. ซึ่งกมธ.ก็ขัดแย้งกันเอง ผู้แปรญัตติคือกมธ.ที่สงวนความเห็น เข้าใจว่าเดี๋ยวคงจะไปทบทวนกัน แต่จะยืนยันหรืออย่างไรก็เป็นสิทธิของฝ่ายเสนอกฎหมาย ซึ่งตนก็ขอให้ไปทบทวนดูอย่าให้เสียเวลาเหมือนเมื่อวาน หากสมมติว่าผ่านไม่ได้จะถอนก็ขออนุญาตที่ประชุม

แสดงความเห็น