เลขาสภา ปัดข่าวลือ ยัน ไม่มีคลัสเตอร์ใหญ่สภา 30 คน ย้ำไม่เคยปกปิดข้อมูล เผย สิระ เข้าใจผิด ชี้จุดก่อสร้างสภา

นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณี กระแสวิจารณ์ รัฐสภา ลักไก่ ก่อสร้าง  ท่ามกลางคำสั่งห้ามก่อสร้าง 1 เดือน ตามคำสั่งฉบับที่ 25 ว่า เป็นความเข้าใจผิด ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.  กทม. ที่พาสื่อบุกชี้จุดก่อสร้าง เนื่องจากสภา ได้ให้ประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้เชิญบริษัทชิโนไทย มาร่วมดูพื้นที่ก่อนที่จะส่งมอบ และตัวอาคารซึ่งต้องเข้าใจว่าพื้นที่ในสภาและตัวอาคารเป็นพื้นที่ใหญ่มาก ในระหว่างนี้จะต้องบริหารจัดการ จะต้องมีฝ่ายเทคนิคมาดูแล ในช่วงระยะเวลา 2 ปี พร้อมยืนยันว่าแรงงานที่เห็นทั้งหมด ที่เข้ามาเป็นคนไทย ไม่ได้มาจากแคมป์คนงานก่อสร้างตามที่เข้าใจ หรือไซต์งานที่ถูกปิด และทางบริษัท ได้สวอป และตรวจเชื้อทุก 15 วัน และทุกคนที่เข้ามาต้องปฏิบัติตามมาตรการของสภา ซึ่งได้ชี้แจงกับนายสิระแล้ว และเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นการเข้าใจผิด

สำหรับกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาระบุว่าสภาขณะนี้มีช่องโหว่ ในช่วงเช้าก่อน 08:00 น. ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตามจุดต่างๆว่าเบื้องต้นยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ แต่ต้องเข้าใจว่าสภาใช้ระบบการคัดกรองผ่านแพลตฟอร์ม ไปแล้วส่วนหนึ่ง ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการเดียวกัน แต่หลังจากนี้จะกำชับให้เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมขอความร่วมมือคนที่จะเข้ามา ต้องคัดกรองตัวเอง เพราะทราบว่าช่วงนี้มีการแพร่ระบาดสูง สภาก็ต้องป้องกันคนของสภาด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณี แม่ค้าร้านโจ๊กที่ติดเชื้อ ระบุ ได้รับรายงานว่า เป็นการติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเนื่องจากก่อนหน้านี้ไปฉีดยากันบาดทะยักมา จึงไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ ก็จ่ายให้เอาคนที่ท่านนี้ได้สั่งให้คนที่สัมผัสใกล้ชิดไปสวอป และสำรวจเพิ่มเติมว่ามีใครหลุดรอด ในส่วนร้านค้า ใครที่ไม่ได้รับวัคซีนจะไม่ให้เข้ามาขายเด็ดขาด พร้อมกั้นพื้นที่ชัดเจน กันสัมผัสร้านค้า

ทั้งนี้เลขาสภา ยังชี้แจงถึง กระแสข่าวว่ามี คลัสเตอร์ เจ้าหน้าที่สภา ติดเชื้อ 30 คน ว่า ไม่เป็นความจริง และสำนักเลขาธิการไม่เคยปิดบังข้อมูล  แต่ยอมรับว่ามีเจ้าหน้าที่สำนักชวเลข สามีติดโควิด-19 จึงให้จนท. ดังกล่าวไปสวอป แต่ผลเป็นลบ และคนใกล้ชิดก็สั่งกักตัวยืนยันทำตามมาตรการด้านสาธารณสุข เกิดเหตุตรงไหนจัดการตรงนั้น มีการขีดวงว่ามีใครเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ และสอบสวนโรคไล่เรียงกันไป

แสดงความเห็น