นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 43 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 25 ตุลาคม 2562 โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมระดับหัวหน้าหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 19 ประเทศ มีผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ และผู้แทนจากหน่วยงานป้องกันยาเสพติดในประเทศไทย รวมกว่า 150 คน
นายสมศักดิ์ฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ประสบปัญหายาเสพติดที่มาจากแหล่งผลิตยาเสพติดสองแหล่ง คือ สามเหลี่ยมทองคำและ พระจันทร์เสี้ยวทองคำ ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งในภูมิภาคและในโลก ความรุนแรงและความซับซ้อนของปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคที่ประสบปัญหายาเสพติดร่วมกัน จำเป็นจะต้องเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากการผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาบ้า ไอซ์ และเคตามีน รัฐบาลไทย ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างประเประเทศ ในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติด โดยมุ่งลดปริมาณยาเสพติดในภูมิภาค ด้วยการสกัดกั้นสารตั้งตันและเคมีภัณฑ์ ไม่ให้ถูกลักลอบ นำเข้าไปยังแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ และสกัดกั้นไม่ให้ ยาเสพติดแพร่กระจายออกไป ทั้งในและนอกภูมิภาค ขณะเดียวกัน ได้เพิ่มความพยายามในการป้องกันยาเสพติด การลดอันตรายจากการใช้ยา และการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยมุ่งเน้นการใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อลดอุปสงค์ยาเสพติดภายในประเทศ
นายสมศักดิ์ฯ กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคกำลังประสบปัญหายาเสพติดที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดประเภทสารสังเคราะห์ และได้ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็น ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัญหา ต้องปรับปรุงข้อมูลและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างรวดเร็ว // การเสริมสร้างศักยภาพด้านการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นให้ทันต่อสถานการณ์ และ การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด ผ่านการส่งเสริมให้มีความช่วยเหลือทางวิชาการด้านการควบคุมยาเสพติด ให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการควบคุมการลักลอบผลิตและลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามยาเสพติด และการป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการยอมรับในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้ปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย โดยเป็นต้นแบบในการใช้แนวทางการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development) ในการดำเนินงาน ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะมีการประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมุ่งลดปริมาณยาเสพติดในภูมิภาค ผ่านการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงเคมีภัณฑ์สารตั้งต้นเข้าไปยังแหล่งผลิต รวมถึงแพร่กระจายออกไปทั้งในและนอกภูมิภาค ทั้งนี้ตนขอขอบคุณสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ที่จัดการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งตัวแทนจากทุกประเทศที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการร่วมือกันเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความมั่นคงของภูมิภาค