Home News การเมือง “แกนนำร...

“แกนนำราษฎร” หอบหมุดคณะราษฎร์จำลอง เข้าสภาฯ จี้หนุน รธน.ฉบับประชาชน

“แกนนำราษฏร” หอบหมุดคณะราษฎร์จำลอง เข้าสภาฯหารือตัวแทนรัฐบาล-ฝ่ายค้าน จี้หนุน รธน.ฉบับประชาชน ด้าน “หมอชลน่าน” ยอมรับคว่ำอำนาจ ส.ว.วันนี้ริบหลี่ จ่อตั้งเวทีนอกสภา เปิดทาง ส.ว.คุย ม็อบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกลุ่มราษฎร ได้ยื่นหนังสือต่อตัวแทนฝ่ายค้านและตัวแทนรัฐบาล บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาเสร็จสิ้น ได้ส่งตัวแทน 4 คน ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่-ดาวดิน นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และตัวแทนผู้ชุมนุม พร้อมหมุดคณะราษฎรจำลอง เข้ามาหารือถึงแนวทางและหลักการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พร้อมย้ำจุดยืนว่า  การจัดทำรัฐธรรมนูญต้องให้ราษฎรมีอำนาจสูงสุด ไม่ใช่ผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และรัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน การแก้ไขต้องทำผ่าน ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด โดยที่รัฐธรรมนูญต้องไม่เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ การแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้ได้ทุกมาตรา ทุกหมวด ไม่มีข้อยกเว้น และการแก้ไขต้องเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย 

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้พยายามอธิบายถึงขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านพยายามแก้ไขมาโดยตลอดแต่ครั้งแรกก็ต้องถูกคว่ำไป แต่พรรคฝ่ายค้านก็มีการยื่นเข้ามาซ้ำอีก 

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างใหม่ ก็ต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัด เพราะบางฝ่ายที่ไม่ยอมให้แตะหมวด 1 -2  

ขณะที่การแก้ไขมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจสมาชิกวุฒิสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้ไม่มีหลักประกัน ว่าจะดำเนินการยกเลิกได้ในกระบวนการของรัฐสภา แต่ก็จะพยายามเสนอต่อไปในสมัยหน้า หากวันนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ จากที่ประชุมรัฐสภาพร้อมจะตั้งเวทีนอกรัฐสภา เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมพูดคุยกับ ส.ว.หาทางออกร่วมกัน 

ทั้งนี้ หลังการหารือกว่าครึ่งชั่วโมงตัวแทนกลุ่มราษฎร ได้ถือโอกาสหนังสือต่อตัวแทนของฝ่ายค้านและรัฐบาลอีกครั้งในรัฐสภา เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ 

โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า “วันนี้ไม่ว่าหัวใจท่านจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่  จึงอยากให้ทุกคนพิจารณา เพราะท่านอยู่ในสถานะสภาผู้แทนราษฎร จึงขอให้มีกระดูกสันหลังตั้งตรงต่อประชาธิปไตยด้วย”

Exit mobile version