พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงแนวทางการรับมือการชุมนุมทางการเมือง ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ โดยระบุว่า ขณะนี้มีกลุ่มที่นัดหมายการชุมนุม 4 กลุ่ม คือ กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นายชาติชาย ไพรลิน นัดหมายที่ อนุสรณ์สถาน 14ตุลา เวลา 13.00-20.00น. เพื่อจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 89 ปีอภิวัฒน์สยาม2475 กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ นัดหมายที่ ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 12.00น. วัตถุประสงค์ เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดยนายเจษฎา ศรีปลั่ง นัดหมายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.00น. และกลุ่มไทยไม่ทนฯ นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดหมายที่ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล ซึ่งยังไม่กำหนดเวลา
ซึ่งพื้นที่ กทม.มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ห้ามมิให้มีการชุมนุมทำกิจกรรม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากฝ่าฝืนจะมีความผิด รวมถึงผู้ที่ชักชวนและผู้ที่สนับสนุน ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน ส่วนกรณีรถเครื่องเสียง และอุปกรณ์ก็เป็นความผิดฐานสนับสนุนการชุมนุม และนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย รวมถึงยังมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนั้นการขออนุญาตจัดการชุมนุม หรือการแจ้งจัดการชุมนุมไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งถ้ามีการรวมตัวกันก็ถือว่าเป็นความผิด
ส่วนการเตรียมวางกำลังตำรวจดูแลความเรียบร้อยได้ประชุมตำรวจในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วซึ่งมีความพร้อม ส่วนจุดที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือจุดที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญ โบราณสถาน เพราะหากเสียหายไม่อาจซ่อมแซมได้ ส่วนการข่าวขณะนี้ยังไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมไว้แล้วในการดูแลการชุมนุมทุกสถานการณ์
ทั้งนี้มาตรการช่วงโควิดนั้น อยากวิงวอนผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมนั้นขอให้เห็นแก่บ้านเมือง เนื่องจากทุกวันนี้ยังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
สำหรับสถิติการดำเนินคดีที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ก.ค.63 ดำเนินคดี 150 คดี ผู้ต้องหา 150 คน ดำเนินคดีตามพยานหลักฐานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกประการ ผู้มาชุมนุมออกมาชุมนุมช่วงใดช่วงหนึ่ง ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยเฉพาะผู้ยุยงปลุกปั่นในโลกโซเชียลมีเดียก็ต้องถูกดำเนินคดี
แสดงความเห็น
