รมว.ยธ. สั่งราชทัณฑ์ ใช้ศูนย์ CARE ช่วยผู้พ้นโทษมีงานทำ จัดการให้ปลอดโควิดก่อนปล่อยตัว

รมว.ยุติธรรม สั่งกรมราชทัณฑ์ ใช้ศูนย์CARE ช่วยผู้พ้นโทษให้มีงานทำ พร้อมจัดการให้ปลอดโควิดก่อนปล่อยตัว หากผู้ติดเชื้อพ้นโทษให้หาที่รองรับ-ประสานโรงพยาบาลรักษาให้หายก่อน กำชับบูรณาการหน่วยงานต่างๆเพื่อให้เกิดการยอมรับ-ความปลอดภัยต่อสังคม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตนได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์ มีมาตรการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ทั้งในด้านการรักษาพยาบาลและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ทั้งยังคำนึงถึงการปล่อยตัวผู้ต้องขัง และการประสานงานส่งต่อผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัว ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ (CARE : Center for Assistance to Reintegration and Employment) หรือศูนย์ CARE โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือผู้พ้นโทษให้มีงานทำทั้งขณะต้องโทษ และการนำความรู้จากการอบรมวิชาชีพไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้พ้นโทษในด้านต่างๆ เป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวพ้นโทษไปแล้ว เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการของหน่วยงานภาครัฐ และป้องกันการกระทำผิดซ้ำอีก

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ CARE ที่ตั้งอยู่ในเรือนจำ ทัณฑสถาน แจ้งช่องทางการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์ CARE จำนวน 137 แห่งทั่วประเทศ และจัดทำข้อมูลการติดต่อหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ให้ผู้พ้นโทษทราบ เพื่อให้ผู้พ้นโทษสามารถขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ไม่มีการติดเชื้อ แต่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ให้มีการประสานงานส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือต่อไป ส่วนการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่มีการติดเชื้อ หากผู้พ้นโทษยินยอมให้กักตัวภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้กักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน แจ้งให้ญาติทราบข้อมูล เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติ เมื่อครบกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถานออกใบรับรองครบกำหนดกักตัว และแจ้งผู้พ้นโทษให้ไปรายงานตัวต่อสาธารณสุขในพื้นที่ และกักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน ในที่พักอาศัย และให้ติดตามอาการหลังสิ้นสุดการรักษา แล้วบันทึกข้อมูลทุกรายที่ติดเชื้อระหว่างการปล่อยตัวพ้นโทษ ในระบบรายงานผลการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้พ้นโทษ/ผู้ถูกคุมประพฤติ (Care Support)

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า หากผู้พ้นโทษไม่ยินยอมให้กักตัวภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้ประสานโรงพยาบาลแม่ข่าย หรือสำนักงานสาธารณสุขพื้นที่ ส่งต่อไปกักตัว หรือรักษาพยาบาล ในพื้นที่ที่สาธารณสุขกำหนด หรือให้กักตัวหรือรักษาพยาบาลในพื้นที่ภายนอกเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่กำหนดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว (shelter) แจ้งให้ญาติทราบข้อมูล โดยเมื่อครบกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน ออกใบรับรองครบกำหนดกักตัว แจ้งผู้พ้นโทษให้ไปรายงานตัวต่อสาธารณสุขในพื้นที่ และกักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน ในที่พักอาศัย และให้ติดตามอาการหลังสิ้นสุดการรักษา แล้วบันทึกข้อมูลทุกรายที่ติดเชื้อระหว่างการปล่อยตัวพ้นโทษ ในระบบCare Support นอกจากนี้ ตนยังกำชับให้กรมราชทัณฑ์มีการบูรณาการกับภาคสังคมในการยอมรับและให้ความช่วยเหลือผู้พ้นโทษ โดยเป็นการทำงานแบบมีส่วนร่วม คำนึงถึงความมั่นคงทางสังคมการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ได้รับการปล่อยตัวด้วย

แสดงความเห็น