นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เร่งปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงดีอีเอส เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงที่ได้ติดตามรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ล่าสุดวันนี้( 18 มิ.ย.64 ) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และพล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศ นำกำลังเข้าจับกุม ผู้ต้องหาได้ 2 ราย ข้อหา “ร่วมกันประกอบกิจการทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีบางรายถูกโทรข่มขู่ จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้น 2 จุด คือจุดที่1 บ้านเลขที่ 30 ซอยหมู่บ้านจันทิมา ธานี 2 แขวงบางรักพัฒนา เขตบางบัวทอง จ.นนทบุรีทำการจับกุม Mr.Lian BinBin สัญชาติจีน ตามหมายจับ ที่ 516/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากการตรวจค้น พบสมุดบัญชี1 5 เล่ม , บัตรกดเงิน 10 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง
จุดที่2 บ้านเลขที่13 ซอยรัตนาธิเบศร์ 30 ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี ทำการจับกุม น.ส.ณัฐชุตา กุลเชษฐ์ ตามหมายจับ ศาลอาญา กรุงเทพใต้ที่จ 299/2564 ข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากการตรวจค้นพบ คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก , โทรศัพท์ อย่างละประมาณกว่า 100 เครื่อง ซึ่งภายในอาคารดังกล่าว มีกลุ่มบุคคลซึ่งยอมรับว่าเป็นพนักงานโทรทวงหนี้รวม 66 คน
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้กู้เงินนอกระบบจากแอปพลิเคชันที่โฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ เบื้องต้นพบมี 6 แอปพลิเคชัน ได้แก่ 1.แมวกวัก 2.Tiktak 3.Ubaht 4.Cashdaddy 5.เต่ามงคล และ6.ถุงเงิน มีพฤติการณ์คือ เมื่อประชาชนตกลงกู้เงิน จะต้องทำการส่งข้อมูลส่วนตัว พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ให้กับทางแอปฯดังกล่าว ยอดเงินกู้เริ่มตั้งแต่ 2,500-10,000 บาทซึ่งจะคิดหักค่าธรรมเนียมประมาณ 30-42% ให้เวลาคืน 7 วันเกินวันแรกดอกเบี้ย+ค่าปรับ 12% วันถัดไปวันละ 5% หากไม่ชำระตามที่กำหนด จะถูกเจ้าหน้าที่โทรตามทวงหนี้หรือโทรหาญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก เพื่อให้เกิดความอับอาย ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 70,000 ราย
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งข้อมูลมาที่เพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเพจอาสาจับตาออนไลน์ https://m.facebook.com/DESMonitor/ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลจะถูกปิดเป็นความลับ
แสดงความเห็น
