ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นาย นิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา และ นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ร่วมกันแถลงภายหลังหารือ เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในส่วนของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 9 ร่าง ประกอบด้วย
ร่างแก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ 6 ประเด็น 6 ฉบับ ได้แก่
– เรื่องสิทธิเสรีภาพ ทั้งสิทธิทางกฎหมาย สิทธิชุมชน สิทธิส่วนบุคคล
– ระบบเลือกตั้ง ใช้ระบบบัตร 2ใบ แบ่งเขต 400เขต บัญชีรายชื่อ 100 คน
– การเลือกนายกรัฐมนตรีต้องจากบัญชีรายชื่อ ที่พรรคเสนอ หรือ จาก ส.ส. ในสภาได้ เพื่อให้นายกฯยึดหลักการยึดโยงกับการเลือกตั้ง
– แก้ มาตรา 256 โหวตเสียงเห็นชอบใช้เสียง3ใน5 หรือ 450 เสียงแทน จาก เดิมใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา ที่จะต้องมีเสียง ส.ว. และฝ่ายค้านเห็นชอบด้วย
– แก้ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ให้สามารถดำเนินคดีกับ คณะกรรมการ ปปช. ที่รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ต้องยื่นให้ ประธานรัฐสภาวินิจฉัยก่อนส่งศาลฎีกา ดังนั้นห่วงว่าในอนาคตหากประธานรัฐสภาไม่ใช่นายชวน หลีกภัย แล้วอาจเป็นปัญหาผลต่อรองทางการเมืองได้ จึงจะแก้ให้ ประธานรัฐสภา มีหน้าที่เพียงส่งเรื่องเท่านั้น
– และเรื่องกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ให้ ผู้บริหารท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย
กล่าวว่า ทั้ง 3 พรรคได้แลกเปลี่ยน ความเห็นมาอย่างต่อเนื่อง และร่วมสนับสนุน ข้อเสนอของพรรคประขาธิปัตย์ เพราะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาบ้านเมือง ได้เพิ่มเติม 3 ฉบับ ที่ทั้ง3 พรรคเห็นชอบด้วย ได้แก่
– อำนาจ ส.ว. ตามมาตรา 272 ไม่มีอำนาจลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
– การกำหนดหน้าที่ของรัฐ ที่รัฐต้องมีหน้าที่ในการดูแลปัญหาปากท้องของประชาชน มีหลักประกันรายได้ถ้วนหน้าให้กับประชาชนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเส้นความยากจน และอย่างน้อยต้องมีรายได้ 36,000 บาท ต่อปีด้วย
– แก้ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ที่สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตามสถานการณ์
ด้านนายนิกร จำนง ยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนา เห็นด้วยกันทั้งหมด 9 ร่าง เพราะมีหลักการตรงกัน จึงได้ลงชื่อ เห็นชอบร่วมกันด้วย
สำหรับการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในส่วนของ3 พรรคร่วมรัฐบาล จะมีการยื่นต่อประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมในวันนี้ เมื่อการพิจารณา ดำเนินการพร้อมเพรียงกันกับพรรคอื่นๆ ที่เสนอเข้ามารวมกันประมาณ 15 ร่าง