คลื่นใต้น้ำ พปชร.รอปะทุ “บิ๊กป้อม”เตรียมหย่าศึก ก่อน18 มิ.ย.

กดปุ่มเดินหน้าลูกเดียว สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ “พรรคพลังประชารัฐ” พรรคแกนนำรัฐบาล ที่จะจัดประชุมใหญ่กันศุกร์นี้ 18 มิ.ย.ที่จังหวัดขอนแก่น

ท่ามกลางการถูกจับจ้องจากแวดวงการเมืองว่าจะมีเซอร์ไพรส์อย่างที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ กับการ “เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ” จาก “เสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาสัย-รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี” เป็น “ผู้กอง ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ” 

ที่มีกระแสข่าว ทำนองนี้มาตั้งแต่ในช่วงที่พลังประชารัฐ จะจัดประชุมใหญ่พรรคเดือนเมษายน  แต่พอเจอโควิดเริ่มระบาดหนักตอนต้นเดือนเมษายน ทำให้พรรค พลังประชารัฐ เลยต้องเลื่อนการประชุมออกไปเช่นเดียวกับทุกพรรคการเมือง ข่าวดังกล่าวเลยเงียบไป แต่ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 18 มิ.ย. ข่าวเรื่องการเปลี่ยนเลขาธิการพรรค ก็เริ่มออกมาอีกระลอก 

ถึงขั้นมีข่าวออกมาในช่วงนี้ว่า ยิ่งใกล้ถึงวันประชุมใหญ่พรรค 18 มิ.ย. คลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชารัฐระหว่างกลุ่มการเมืองกลุ่มต่างๆในพรรค ที่เงียบสงบไปสักพักใหญ่จากผลพวงโควิด ปรากฏว่ามาถึงตอนนี้ คลื่นใต้น้ำระหว่างกลุ่มการเมืองกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ กำลังจะเริ่มก่อตัวปะทุอีกรอบ ที่คนในพรรคบอกให้จับตากันให้ดี หากแกนนำพรรค ยังเคลียร์กันไม่ลงตัวก่อนถึงวันที่ 18 มิ.ย. ก็อาจทำให้การประชุมใหญ่วันดังกล่าว อาจมีเซอร์ไพรส์กันให้เห็น ท่ามกลางข่าวว่า คลื่นใต้น้ำที่เริ่มปะทุในพรรคพลังประชารัฐ ทำให้พี่ใหญ่ คุณลุงใจดี ของคนพลังประชารัฐ อย่าง บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและผู้จัดการรัฐบาล ที่รู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดในพรรคเป็นอย่างดี ชนิด เข็มตกในพรรคแท่งเดียว บิ๊กป้อม ก็รู้แล้ว เพราะบิ๊กป้อม วางคนของตัวเองไว้ในกลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม ที่จะคอยรายงานทุกความเคลื่อนไหว ที่สำคัญๆ ในพรรคพลังประชารัฐ ถึงบิ๊กป้อมให้รู้ทุกฝีก้าว ชนิดคนในกลุ่มด้วยกันเอง ยังไม่รู้เลยว่า ใครเป็นสายให้บิ๊กป้อม 

เมื่อตอนนี้เริ่มมีกระแสข่าว กลุ่มการเมืองในพลังประชารัฐ บางกลุ่ม คิดเคลื่อนไหวให้มีการปรับโครงสร้างอำนาจการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส.ส.พลังประชารัฐ เกือบทั้งหมด มาร่วมประชุมสภาฯกันอย่างคับคั่งตอนสภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 และพ.ร.ก.กู้เงินโควิด 5 แสนล้านบาท  เลยทำให้ ส.ส.พลังประชารัฐ แยกย้ายกันตั้งวง หารือ-แลกเปลี่ยนข่าวสาร ถึงเรื่องการจัดทัพอำนาจใหม่ในพรรคพลังประชารัฐ

ข่าวที่ได้รับมาคือ มีทั้งส.ส.พลังประชารัฐ ที่เห็นด้วย กับการจัดทัพใหม่ เพื่อทำให้การบริหารงานในพรรคคล่องตัวขึ้น เช่น การลดจำนวนกรรมการบริหารพรรค อย่างรองหัวหน้าพรรคจากที่มีร่วม 10 คนให้เหลือสักไม่เกิน 5 คนและหากจำเป็น ถ้าเสียงส่วนใหญ่เอาด้วยกับการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค ก็ควรให้คนในพรรคได้โหวตกัน   โดยข่าวที่ออกมาพบว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีส.ส.พลังประชารัฐ ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้จำนวนไม่น้อย เพราะมองว่า ทุกอย่างตอนนี้ในพลังประชารัฐ เรียบร้อยดีอยู่แล้ว กรรมการบริหารพรรคแต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่มีเหตุอะไรต้องมาปรับเปลี่ยนช่วงนี้ อีกทั้งเวลานี้ การเมืองควรนิ่ง เพื่อให้รัฐบาลมีสมาธิในการแก้ปัญหาโควิด ควรงดเรื่องการเมืองไปสักพักใหญ่ 

ร่องรอยความเห็นดังกล่าวของส.ส.พลังประชารัฐ ที่เห็นต่างกันสองกลุ่มดังกล่าว ปรากฏให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้จากการประชุมใหญ่ส.ส.พลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ปรากฏว่า ระหว่างการประชุมที่มี อนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคร่วมประชุมด้วย ได้มีส.ส.พลังประชารัฐ บางส่วน สอบถามและพูดคุยกันในที่ประชุมพรรค ถึงกระแสข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค โดยมีข่าวว่ามีส.ส.จำนวนหนึ่ง อภิปราย แสดงความคิดเห็นในทำนองว่า หากต้องการให้พรรคพลังประชารัฐเข้มแข็งมั่นคง ไม่ควรมีการเปลี่ยนม้ากลางศึกบ่อยครั้ง และไม่เห็นว่า เลขาธิการพรรค อนุชา ทำงานบกพร่องตรงไหน จนต้องมาเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคในช่วงเวลานี้ โดยใช้วิธีกดดันปล่อยข่าวนอกพรรค จนทำให้ภาพลักษณ์พรรคภายนอก ถูกมองว่า มีความแตกแยกภายในพรรค

ปฏิกิริยา ที่เกิดขึ้นกลางที่ประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐดังกล่าวที่มีส.ส. ของพรรคไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ข่าวว่า มีการรายงานตรงถึง พลเอกประวิตร ทันทีทันใด ซึ่งคาดการว่า พลเอกประวิตร คงเริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่า คลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชารัฐ กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง หลังสงบไปพักใหญ่ โดยแม้คลื่นใต้น้ำดังกล่าว ยังไม่ก่อตัวรุนแรงออกมานอกพรรคให้เห็นมากนัก แต่ก็ทำให้ บิ๊กป้อม กังวลใจไม่น้อย จนมีข่าวว่า บิ๊กป้อมและทีมงานการเมืองคนใกล้ชิด กำลังประมวลข้อมูลต่างๆ จากทุกกลุ่มในพลังประชารัฐ ก่อนที่จะถึงการประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ 

ต้องไม่ลืมว่า “บิ๊กป้อม-หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” เวลานี้ อยู่ตรงกลางระหว่างสองกลุ่มการเมืองใหญ่ในพลังประชารัฐ ที่มีข่าวว่างัดกันมาแล้วหลายรอบ คือ  “กลุ่ม 4 รัฐมนตรีว่าการฯ” คือ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม-อนุชา นาคาศัย และสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานกับ “กลุ่ม 4 รมช.ฯ” คือ ธรรมนัส พรหมเผ่า -สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงานและอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ที่กลุ่มนี้ ข่าวว่า ก็ยังมีกองหนุนอยู่ข้างหลังอีก ที่แม้ไม่เปิดเผยตัว แต่ก็รู้กันในพรรคว่า พร้อมจะออกมายืนข้างกลุ่ม 4 รมช. อาทิเช่น “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ​และสังคม” 

มันจึงทำให้ บิ๊กป้อม ต้องบริหารอารมณ์ความรู้สึกของแกนนำทั้งสองกลุ่ม ให้บาลานซ์กัน ไม่ทำให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เกิดความรู้สึกคับข้องใจ จนเกิดการแตกหักกันขึ้น   

ส่วน บิ๊กป้อม จะวางตัวอย่างไร ก็เป็นเรื่องน่าคิด เพราะยังพบว่า ยังคงมีข่าวที่ถูกโยนออกมาเป็นระยะ ก่อนถึงการประชุมใหญ่ 18 มิ.ย. ที่ทำให้เห็นร่องรอย คลื่นใต้น้ำในพลังประชารัฐ ออกมาเป็นระลอกๆ 

ถึงขั้นมีกระแสข่าว อาจมีการเปิดทางให้มีการล้างไพ่ใหม่ในการจัดทัพในพลังประชารัฐ ด้วยสูตร พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่จะทำให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันต้องพ้นไปทั้งคณะ แล้วก็ให้ที่ประชุมวันที่ 18 มิ.ย. พิจารณารายชื่อ กก.บห.ชุดใหม่แทนที่ตามขั้นตอนข้อบังคับพรรคไปเลย และถ้าออกมาสูตรนี้ ก็ต้องดูว่า สุดท้าย จะมีการประลองกำลังกันในพรรคเพื่อเลือก “เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ” คนใหม่ ระหว่างกลุ่ม 4 รมว.กับกลุ่ม 4 รมช.หรือไม่ 

เพราะก่อนถึงช่วงวันประชุม 18 มิ.ย. ข่าวบางกระแสบอกวา กลุ่ม 4 รมช.ฯ ที่หนุน ธรรมนัส ยังคงสงวนท่าทีอยู่ แม้จะมีข่าวว่า กลุ่ม 4 รมช.โดยเฉพาะ ส.ส.ในกลุ่มของธรรมนัส ต้องการให้มีการวัดกำลังกันไปเลย ด้วยการดัน ธรรมนัส ชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรค หากสุดท้าย บิ๊กป้อม ยอมเปิดทางให้มีการล้างไพ่ใหม่กันจริงอย่างที่มีกระแสข่าว 

แต่ข่าวอีกทาง ก็บอกว่า ธรรมนัส ยังไม่มีท่าทีใดๆ ในเรื่องการจะชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการรอดูทิศทางจนถึงช่วงใกล้ๆ วันที่ 18 มิ.ย.ถึงค่อยตัดสินใจ เพราะข่าวว่า ธรรมนัส เองก็เกรงใจ บิ๊กป้อม ไม่อยากให้เรื่องการเมืองในพลังประชารัฐ มาทำให้ การทำงานของรัฐบาลเสียทรง ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-การฉีดวัคซีน ยังทำให้รัฐบาล โดนวิจารณ์หนักอยู่ 

ต้องรอดูว่า ช่วงก่อนถึงวันที่ 18 มิ.ย. ท่าทีและความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆในพลังประชารัฐ จะเป็นอย่างไร 

คาดได้ว่า หากสุดท้าย ถ้ามีแนวโน้มที่คลื่นใต้น้ำในพลังประชารัฐอาจก่อตัว เป็นคลื่นลูกใหญ่ ก็เชื่อว่า บิ๊กป้อม คงไม่รอช้า อาจต้องเรียกแกนนำแต่ละกลุ่มไปเคลียร์โดยด่วนเพื่อหาทางออกที่ทุกกลุ่มในพรรคพอใจมากที่สุด  ก่อนที่แกนนำและส.ส.ของพลังประชารัฐ ทั้งหมดจะบินไปประชุมใหญ่พรรคที่ขอนแก่น เพื่อไม่ให้ การประชุมวันดังกล่าว วงแตก ถึงขั้น คนในพรรค มองหน้ากันไม่ติด

Exit mobile version