กมธ.งบฯ 65 เริ่มตรวจสอบงบฯ ก.คลัง ชี้ ปกติไม่เคยเปิดงบลับกลางที่ประชุม

กมธ.งบฯ 65  เริ่มตรวจสอบงบฯ กระทรวงการคลัง เรื่องการจัดเก็บรายได้  ส่วนงบฯ ลับ รอถกตอนงบฯกลาโหม-สำนักนายกฯ  ซึ่งปกติไม่เคยเปิดกลางที่ประชุม  ไม่หวั่นฝ่ายค้านโหวตคว่ำ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน  

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล  หรือ วิปรัฐบาล รองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565  กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในชั้นกรรมาธิการ ว่าในวันนี้จะเริ่มพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานภาครัฐ  และคงลงในรายละเอียด  ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการว่าจะซักถามมากน้อยแค่ไหน   

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมตรวจสอบงบฯ ลับนั้น  ก็คงพิจารณาเมื่อถึงการพิจารณา ในส่วนของกระทรวงกลาโหมและสำนักนายกรัฐมนตรี   โดยประเพณีแล้วการตรวจสอบงบฯลับว่าจะใช้อะไรไปบ้าง  ทางหน่วยงานจะชี้แจงให้ประธานในที่ประชุม กมธ.ได้มีโอกาสดู และเห็นว่าใช้อะไรแล้วก็ส่งคืน  เพราะฉะนั้นในส่วนนี้อาจจะเป็นความลับของหน่วยงานราชการ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยได้ดู   อย่างไรก็ตามอาจจะมีการซักถามบ้างว่าจะใช้งบประมาณไปในแนวไหน  เป็นภาพกว้างๆ  ซึ่งมีหลายหน่วยงานใช้รวมกัน  ทางผู้รับผิดชอบก็อาจจะเปิดเผยในภาพรวม   เท่าที่ดูยอดงบฯลับก็มีไม่มาก  ถ้าเทียบในแต่ละหน่วย

“ขึ้นชื่อว่าความลับ ก็คือความลับและเป็นงบฯที่มีอยู่  เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณที่เคยมีทุกปีอยู่แล้ว ถามว่าเปิดเผยได้หรือไม่  ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องถามฝ่ายบริหารว่าจะเปิดเผยอย่างไร” นายวิรัช กล่าว 

สำหรับการพิจารณาพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม  จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม  วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาทนั้น   ประธานวิปรัฐบาล  กล่าวว่าในวิปรัฐบาลได้หารือและเตรียมความพร้อมโดยมี ส.ส.รัฐบาลแสดงความจำนงที่จะอภิปราย 25 คน  แบ่งเวลากับฝ่ายค้านฝั่งละ 9 ชั่วโมง  ซึ่งต้องรอดูหาก ส.ส. รัฐบาลใช้เวลาไม่ครบก็อาจจะใช้เวลาอภิปรายเพียงวันเดียว  ทั้งนี้ไม่กังวลกรณีที่ฝ่ายค้านประกาศไม่ให้ความเห็นชอบพระราชกำหนด เพราะ เชื่อว่าคงเหมือนกรณีพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ที่ฝ่ายค้านก็ประกาศเช่นนี้แต่สุดท้ายสภาก็รับหลักการ  เพราะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าการลงมติจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 

นายวิรัช  ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลที่งบฯ กระทรวงสาธารณสุขถูกปรับลดลง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19  ว่าตอนนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากทราบถึงการฉีดวัคซีน  และถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นกระทรวงลำดับต้นๆ ในการพิจารณา 

ส่วนความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพิ่มงบประมาณให้กับกรมควบคุมโรคติดต่อ  นายวิรัช กล่าวสั้นๆ ว่ามีความเป็นไปได้  ซึ่งต้องหารือกันก่อน

แสดงความเห็น