นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตเลขาธิการเพื่อไทยพลัส กลุ่มคนรุ่นใหม่ และ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตบางกะปิ วังทองหลาง พรรคเพื่อไทย เปิดใจหลังยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยวานนี้ ว่า ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจที่เคยได้ร่วมงานใส่เสื้อในนามพรรคเพื่อไทย มาตั้งแต่ปี 2562 แต่จากการ ที่มีการปรับโครงสร้าง กรรมการบริหารพรรค ที่ผ่านมาล่าสุด มีการปรับเปลี่ยนบทบาทภายในพรรค ส่วนตัวได้รับผลกระทบ โดยไม่ได้ให้ร่วมกิจกรรมของพรรคเลย ซึ่งก็เข้าใจได้ในเรื่องทางการเมือง จึงมาโฟกัสการทำงานในพื้นที่กับสก.-สข.ทีมที่ทำงานรับผิดชอบในเขตบางกะปิ วังทองหลางด้วยกันมา
แต่ล่าสุด พรรคเพื่อไทยกลับเลือกผู้สมัครสก.จากทีมของนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศส.ส.กทม เขตบึงกุ่ม คันนายาว พรรคเพื่อไทย แทนทีมของตนที่ดูแลพื้นที่มา 20-30 ปีโดยทำงานอย่างหนักมาตลอด และตนก็ไม่สามารถให้การสนับสนุนคนที่พรรคเลือกมาได้ ก็เท่ากับว่าตนขัดกับมติพรรค จึงเป็นความลำบากใจที่จะทำงานร่วมกับทีมอื่น ที่พรรคเลือกมา เพราะคิดว่าผู้สมัครที่เป็นทีมงานเดิมทำพื้นที่ดีอยู่แล้ว มีความสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ดีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ หากผู้สมัครสก.ที่พรรคเพื่อไทยเลือกมาเป็นทีมงานของคนอื่น ซึ่งทราบกันดีว่าส.ส.คนดังกล่าวก็มีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรคอยู่หลายครั้ง อาจไม่มีความชัดเจน ไม่มีอุดมการณ์ตรงกันกับตน และอาจจะมาแค่เฉพาะกิจหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ เมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจนำทีม ถอยดีกว่า พาทีมงานลาออกจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่ได้น้อยใจ แต่ออกมาเพื่อจะได้ทำงานอย่างอิสระ รับใช้ประชาชนในฐานะไม่สังกัดพรรคจะดีกว่า
ทั้งนี้นายตรีรัตน์ ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่หลายพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทาบทามให้เข้ามาร่วมทำงาน แต่ขอเวลาทบทวน โดยยังคงเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในนามส่วนตัวก่อน และรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก ของครอบครัวไปก่อนในระยะนี้ไปก่อน
“ผมเป็นคนชัดเจนในอุดมการณ์ และยืนยันจะช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่ที่รับผิดชอบต่อไป ไม่ทิ้งประชาชน แต่หากคนที่มา อยู่กับส.ส.คนนั้น มีความไม่ชัดเจน โหวตสวนไปสวนมากับมติพรรคอยู่เลย จึงทำให้ผมอึดอัดใจ และการเมืองวันนี้ ต้องชัดเจนเพราะไม่เช่นนั้นชาวบ้านก็จะไม่ชัดเจน ซึ่งจะแน่ใจได้อย่างไรว่าส.ส.คนนั้นจะอยู่กับพรรคเพื่อไทยตลอด ฉะนั้นผมจึงขอออกมาให้ชัดเจนดีกว่า อนาคตยังเป็นเรื่องของอนาคตแต่ยืนยันว่ายังเดินหน้าทำพื้นที่ในนามส่วนตัวเพื่อประชาชนต่อไป” นายตรีรัตน์กล่าว