“สมศักดิ์” ลุย ตรวจสถานบันเทิง ยันไม่ได้มุ่งทำลายธุรกิจ แค่ทำความเข้าใจ เตือนเยาวชนห่างยาเสพติด


ที่โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ เปิดกิจกรรมการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการและสถานบริการ ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมของรัฐบาล พร้อมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสถานบริการต่างๆ ในอ.หาดใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน อาทิ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพสามิต กรมควบคุมโรค ป.ป.ส. และภาคีเครือข่ายต่างๆ ซึ่งบรรยากาศการตรวจเป็นอย่างกันเอง เพราะเมื่อนายสมศักดิ์ ได้เดินเข้าสถานบันเทิง เพื่อขึ้นเวทีกล่าวกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยว ก็ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับ ก่อนที่จะกล่าวแนะนำเรื่องข้อกฎหมาย เช่น อายุไม่ถึง 20 ปี ห้ามเข้าสถานบันเทิง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ห้ามเล่นการพนัน และเมื่อร้านปิดให้รีบกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ เพื่อสร้างการรับรู้กับประชาชนและลูกหลานในพื้นที่ เพราะในปัจจุบันเรื่องสำคัญที่สุด ที่กระทรวงยุติธรรมเน้นคือเรื่องยาเสพติด ที่วันนี้ผู้ต้องขังกว่า 80% เป็นเรื่องยาเสพติด โดยเรื่องการป้องกันเราไม่ค่อยเห็นมานาน พร้อมยืนยัน ไม่ได้มุ่งหวังทำลาย หรือ มาจับกุม แต่มาเพื่อทำความเข้าใจว่าลูกหลานเราไม่ควรเดินเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งกระทรวงอื่นๆก็ต้องร่วมกันช่วยแก้ไขและป้องกัน รวมถึงต้องช่วยกันสร้างกำแพงป้องกัน ดังนั้นหากสถานบันเทิงต่างๆให้ความร่วมมือในการป้องกัน ด้วยการให้บริการกับผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้อายุไม่ถึง ไม่เปิดเกินที่ยงคืน และไม่ให้นำยาเสพติดเข้าร้าน ไม่ยอมให้มีการค้ามนุษย์ ซึ่งตนอยากให้ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นช่วยกัน เพื่อให้ลูกหลานมีอนาคตก้าวหน้า 

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ หลังการตรวจสถานบันเทิง ว่า วันนี้มาทำความเข้าใจกับสถานบริการ โดยปกติคนเที่ยวอายุเกินอยู่แล้ว ซึ่งเราย้ำว่า อย่านำพาคนอายุไม่ถึงเข้ามา และสิ่งที่ย้ำหนักแน่นคือ ยาเสพติด โดยในอดีตการตรวจปัสสวะพ้น 3 วันไม่ค่อยได้ผล แต่ตอนนี้นิติวิทยาศาสตร์สามารถตรวจเส้นผมได้ผลย้อนหลังถึง 6 เดือน และราชการมีระบบการตรวจสอบที่ละเอียดและทันสมัยมากขึ้น ดังนั้นทุกคนควรละเลิกและห่างไกลจากคนเสพด้วย เพราะควันอาจติดเส้นผมได้ พร้อมขอความร่วมมือ หากมีเบาะแสขอให้แจ้ง ป.ป.ส. ที่ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ ที่บูรณาการร่วมกัน ทั้งนี้เราจะพยายามดำเนินโครงการแบบนี้ให้ทั่วประเทศ ยืนยันว่า จะเน้นการประชาสัมพันธ์เป็นหลัก โดยจะไม่ทำให้ธุรกิจการค้าเสียหาย แต่หากไม่ไหวจริงๆค่อยใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น

แสดงความเห็น